Page 7 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 7

หนังสือเล่มนี้คงสําเร็จงดงามไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานและบุคคลจํานวน
                มาก ขอขอบคุณหัวหน้าภาควิชาวรรณคดีผู้คิดริเริ่มให้เกิดการประชุมวิชาการครั้งนี้ขึ้น ขอขอบคุณ

                คณาจารย์ในภาควิชาวรรณคดีที่ได้มีส่วนร่วมเสนอบทความ ตรวจแก้ และปฏิบัติงานร่วมกันในกอง
                บรรณาธิการ ขอขอบคุณคุณโชติรส เกตุแก้วที่ดูแลงานด้านศิลปกรรมด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดี

                ขอบคุณคณะกรรมการฝ่ายวิจัย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะกรรมการสิทธิ

                มนุษยชนแห่งชาติ ที่อุดหนุนงบประมาณ และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครในฐานะ
                หน่วยงานร่วมจัดที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้การประชุมวิชาการครั้งนี้เป็นจริงขึ้นมาได้


                       ภาพแทนของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่คนทั่วไปรับรู้คือการใช้ความรุนแรงทําร้าย การเหยียด
                หยาม ผู้ถูกละเมิดสิทธิโดยไม่มีทางโต้กลับหรือ “เปล่งเสียง” ออกมาจึงเปรียบได้กับใช้ชีวิตอยู่ในโลกของ

                บาดแผลและน้ําตา วรรณกรรมจึงเป็นเสมือนคําจารึกประสบการณ์ความทุกข์เหล่านั้น หากมองว่าเรื่อง

                เล่าจากประสบการณ์ความทุกข์หรือเรื่องเล่าที่เกื้อหนุนความรุนแรงเหล่านั้นคือโวหารแห่งความอัปยศที่
                ฟ้องความเลวร้ายที่มนุษย์ได้กระทําต่อกัน การหวนกลับไปทบทวนเรื่องเล่าเหล่านั้นอาจช่วยผันความ

                อัปยศให้กลายเป็นศักดิ์ศรี ในทางกลับกันก็น่าจะได้ตั้งคําถามกลับไปยังผู้ที่เชื่อว่ามีศักดิ์ศรีเหนือผู้อื่นใน
                เส้นแบ่งด้านรุ่นวัย ชนชั้น ชาติพันธุ์ เพศสถานะ ฯลฯ ให้ตระหนักถึงความ “เสมอกัน”   ของมวล

                มนุษยชาติ และให้เรียนรู้จนเข้าใจในที่สุดว่ามายาคติที่พวกเขาติดยึดอยู่นั้นน่าอัปยศเพียงใด


                                                                                  นัทธนัย ประสานนาม

                                                                                                                      บรรณาธิการ
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12