Page 17 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 17
ได้อย่างเสมอภาคและเป็นธรรม
เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิแรงงานในหลายรูปแบบ เช่น
การกดดันให้ลูกจ้างลาออกมิฉะนั้นจะถูกนายจ้างดำเนินคดีอาญา การตรวจสารเสพติด การพิสูจน์
โดยเครื่องจับเท็จ และการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้นำสหภาพแรงงาน ในบางกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่าย
ปกครองระดับอำเภอมีส่วนร่วมกรณีนายจ้างกดดันสหภาพแรงงาน เช่น ให้สถานที่จัดอบรมนอก
โรงงานโดยไม่ยอมให้แกนนำและสมาชิกสหภาพฯ เข้าทำงาน หรือดำเนินคดีและปรับข้อหาแจก
เอกสารสหภาพฯ หน้าโรงงานริมถนนสาธารณะ ทำให้บ้านเมืองสกปรกหรือไม่เป็นระเบียบ
ด้านนโยบายรัฐบาล ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่อการจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีมาตรการการ
คุ้มครองแรงงานที่มีประสิทธิภาพ เน้นการใช้สิทธิทางศาล ขาดมาตรการทางปกครองหรือมาตรการ
บริหารเชิงรุกในการแก้ไขปัญหา ไม่ประกาศนโยบายหรือจุดยืนที่ชัดเจนและมาตรการแก้ไขปัญหาที่เป็น
รูปธรรมในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนด้านแรงงาน ตลอดจนไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของเครือข่าย
ภาคประชาชนด้านแรงงานเกี่ยวกับนโยบายและกฎหมายด้านแรงงานที่ดำเนินต่อเนื่องมายาวนาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่างกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ การประกันสังคม
แรงงานนอกระบบ ร่างกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ และร่างกฎหมายว่าด้วยสถาบันความ
ปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
๓. กลยุทธ์ของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในช่วงห้าปี
กรอบการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน เป็นไปตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติมอบหมายตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เป็นอิสระ ครอบคลุมถึง
สิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคี ตรวจสอบการละเมิด
กฎหมาย และการปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้านแรงงานซึ่งมีหลายมิติ แต่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ง
ชาติไม่มีอำนาจตรวจสอบหากมีการดำเนินคดีในศาลในประเด็นเดียวกันกับประเด็นที่ร้องเรียน ไม่มีกลไก
ในการดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งโดยการเชื่อมโยงกับศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง และศาล
ยุติธรรม มีแต่การเสนอแนะต่อรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งยังมีอุปสรรคหรือข้อจำกัดในการแก้ไขปัญหาอีกมาก
มาตรการที่สำคัญ คือการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเสนอให้
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นชอบ และนำไปสู่การตรวจสอบกฎหมายหรือระเบียบที่ขัด
รัฐธรรมนูญ หรือกติการะหว่างประเทศที่รัฐบาลไทยให้สัตยาบันแล้ว ตลอดจนมีข้อเสนอแนะ
เชิงนโยบายต่อรัฐบาล และการสื่อสารกับสังคมเพื่อการสร้างความตระหนักในสิทธิแรงงาน
ดังนั้น คณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน จึงเน้นการเจรจาไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีเข้าใจและยอมรับ
หลักการสิทธิมนุษยชน เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติและเป็นธรรม การประสานหน่วยงานภาครัฐและภาค
ประชาชนเพื่อให้เกิดกลไกในระดับจังหวัดหรือชุมชนในการแก้ไขปัญหาหรือคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหรือจัดสัมมนาเพื่อให้สังคมรับทราบเพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลสนใจแก้ไข
ปัญหา และเน้นการร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายภาคประชาชน จึงมีการประชุม
สัมมนาร่วมกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ ด้านแรงงานและองค์กรสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง
และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๑๗
Master 2 anu .indd 17 7/28/08 8:38:49 PM