Page 15 - วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม 2563)
P. 15

14           วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน



                       การไม่อนุญาตให้หญิงท�าแท้งเมื่อพบความผิดปกติของทารกในครรภ์
                            กับสิทธิที่จะไม่ถูกทรมาน หรือถูกปฏิบัติอย่างทารุณโหดร้าย





                                                       บทน�า



                       ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ 4/2563 สร้ำงแรงกระเพื่อมอย่ำงรุนแรงไม่เพียงเฉพำะ

                 ในวงกำรกฎหมำย แต่รวมถึงสังคมโดยรวมเพรำะเป็นค�ำวินิจฉัยที่ยืนยันว่ำกำรก�ำหนดให้หญิงที่ท�ำให้
                 ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้บุคคลอื่นท�ำให้ตนเองแท้งลูกเป็นควำมผิดอำญำอย่ำงที่ประมวลกฎหมำยอำญำ
                 มำตรำ 301 เป็นอยู่นั้นเป็นกำรสร้ำงผลกระทบ “ให้หญิงไม่ได้รับควำมเป็นธรรมและถูกลิดรอนหรือ
                 จ�ำกัดสิทธิในเนื้อตัวร่ำงกำยของหญิง  ซึ่งเป็นสิทธิตำมธรรมชำติที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐำนของศักดิ์ศรี

                                2
                 ควำมเป็นมนุษย์”  โดยศำลเห็นว่ำกฎหมำยที่เป็นอยู่มุ่งคุ้มครองสิทธิของทำรกในครรภ์โดยไม่ได้
                 เกิดควำมสมดุลกับสิทธิของหญิงที่ตั้งครรภ์ มำตรำ 301 จึงกระทบต่อสิทธิและเสรีภำพในชีวิตและ
                                           3
                 ร่ำงกำยของหญิงเกินควำมจ�ำเป็น  และมีผลให้กฎหมำยมำตรำดังกล่ำวขัดรัฐธรรมนูญ และต้องมีกำร
                 แก้ไขใหม่ภำยใน 360 วัน ซึ่งก็คือก่อนวันที่ 14 กุมภำพันธ์ 2564 ไม่เช่นนั้นมำตรำนี้จะสิ้นผลไปทันที

                       ค�ำวินิจฉัยนี้น�ำไปสู่ข้อถกเถียงในวงกำรต่ำง ๆ ทั้งในหมู่นักกฎหมำย บุคลำกรสำธำรณสุข
                 และนักสิทธิมนุษยชน  มีกำรท�ำข้อเสนอในรูปแบบต่ำง ๆ ว่ำกฎหมำยเรื่องท�ำแท้งที่ได้ “สมดุล”
                 ระหว่ำงสิทธิของทำรกในครรภ์ และกำรเคำรพในเนื้อตัวร่ำงกำยของหญิงควรจะเป็นเช่นไร บทควำมนี้
                 จะวิเครำะห์ถึงสิทธิประกำรหนึ่งที่อย่ำงน้อยจำกประสบกำรณ์ของผู้เขียนไม่ค่อยมีกำรพูดเชื่อมโยง

                 ถึงเมื่อมีกำรถกเถียงเรื่องกำรท�ำแท้งนั้นคือ สิทธิที่จะไม่ถูกทรมำน หรือถูกปฏิบัติอย่ำงทำรุณโหดร้ำย
                 ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิที่ส�ำคัญที่สุดและเป็นสิทธิเด็ดขำดที่ยกเว้นไม่ได้  โดยบทควำมจะชี้ให้เห็นว่ำ
                                                                         4
                                                                                                 5
                 กำรเพียงจ�ำกัดขอบเขตของมำตรำ 301 ลงมำโดยกำรก�ำหนด “เงื่อนไขหรือเงื่อนเวลำที่เหมำะสม”
                 เพื่อเคำรพต่อสิทธิและเสรีภำพในร่ำงกำยตำมรัฐธรรมนูญมำตรำ 28 วรรค 1 โดยล�ำพังนั้นอำจยังไม่เพียงพอ

                 หำกยังควรต้องมีกำรแก้ไขมำตรำ 305 เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มำตรำ 28 วรรค 3
                 เพื่อให้กฎหมำยที่แก้ไขใหม่สอดคล้องกับสิทธิที่จะไม่ถูกทรมำน หรือถูกปฏิบัติอย่ำงทำรุณโหดร้ำยด้วย
                 โดยเฉพำะในกรณีที่ทำรกในครรภ์ไม่สำมำรถมีชีวิตรอดเป็นทำรกได้ หรือจะเสียชีวิตอย่ำงรวดเร็ว
                 หลังคลอด (fatal foetal anomaly: FFA) ดังนี้ ข้อเสนอของบทควำมนี้จึงสอดคล้องกับ

                 “ค�ำแนะน�ำ” ของศำลรัฐธรรมนูญในส่วนของผลที่แนะน�ำให้รัฐสภำไปด�ำเนินกำรแก้ไข
                                6
                 มำตรำ 305 ต่อไป  เพียงแต่ในขณะที่ศำลเห็นว่ำมำตรำ 305 ยังไม่สอดคล้องกับสภำพกำรณ์ปัจจุบัน



                       2  ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ 4/2563 หน้ำ 5.
                       3  ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ 4/2563 หน้ำ 6.
                       4  รัฐธรรมนูญ มำตรำ 28, ICCPR Art. 4 and UNCAT Art. 2.
                       5  ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ 4/2563 หน้ำ 6.
                       6  ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ 4/2563 หน้ำ 9.
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20