Page 49 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 49

มาตรา ๑๕ ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ หน่วยงานของรัฐ                                  มาตรา ๑๘ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีค าสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดตามมาตรา ๑๔ หรือ

               หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีค าสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้ โดยค านึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของ                           มาตรา ๑๕ หรือมีค าสั่งไม่รับฟังค าคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสียตามมาตรา ๑๗ ผู้นั้นอาจอุทธรณ์
               หน่วยงานของรัฐ ประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์ของเอกชนที่เกี่ยวข้องประกอบกัน                                               ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งค าสั่งนั้น
                      (๑) การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่าง                                 โดยยื่นค าอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ

               ประเทศ หรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ                                                                          มาตรา ๑๙ การพิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่มีค าสั่งมิให้เปิดเผยนั้นไม่ว่าจะเป็น
                      (๒) การเปิดเผยจะท าให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่อาจส าเร็จ                                     การพิจารณาของคณะกรรมการ คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือศาลก็ตาม

               ตามวัตถุประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการฟ้องคดี การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ                              จะต้องด าเนินกระบวนการพิจารณาโดยมิให้ข้อมูลข่าวสารนั้นเปิดเผยแก่บุคคลอื่นใดที่ไม่จ าเป็น
               หรือการรู้แหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสารหรือไม่ก็ตาม                                                                       แก่การพิจารณาและในกรณีที่จ าเป็นจะพิจารณาลับหลังคู่กรณีหรือคู่ความฝ่ายใดก็ได้
                      (๓) ความเห็นหรือค าแนะน าภายในหน่วยงานของรัฐในการด าเนินการเรื่องหนึ่งเรื่องใด แต่ทั้งนี้

               ไม่รวมถึงรายงานทางวิชาการ รายงานข้อเท็จจริง หรือข้อมูลข่าวสารที่น ามาใช้ในการท าความเห็น                                      มาตรา ๒๐ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดแม้จะเข้าข่ายต้องมีความรับผิดตามกฎหมายใด
               หรือค าแนะน าภายในดังกล่าว                                                                                             ให้ถือว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ต้องรับผิดหากเป็นการกระท าโดยสุจริตในกรณีดังต่อไปนี้

                      (๔) การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด                                           (๑) ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๕ ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ด าเนินการโดยถูกต้องตามระเบียบ
                      (๕) รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ าสิทธิส่วนบุคคล                        ตามมาตรา ๑๖
               โดยไม่สมควร                                                                                                                   (๒) ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๕ ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับตามที่ก าหนดในกฎกระทรวง

                      (๖) ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีกฎหมายคุ้มครองมิให้เปิดเผย หรือข้อมูลข่าวสารที่มีผู้ให้มา                        มีค าสั่งให้เปิดเผยเป็นการทั่วไปหรือเฉพาะแก่บุคคลใดเพื่อประโยชน์อันส าคัญยิ่งกว่าที่เกี่ยวกับประโยชน์
               โดยไม่ประสงค์ให้ทางราชการน าไปเปิดเผยต่อผู้อื่น                                                                        สาธารณะ หรือชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือประโยชน์อื่นของบุคคล และค าสั่งนั้นได้กระท าโดยสมควร

                      (๗) กรณีอื่นตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา                                                                         แก่เหตุ ในการนี้จะมีการก าหนดข้อจ ากัดหรือเงื่อนไขในการใช้ข้อมูลข่าวสารนั้นตามความเหมาะสมก็ได้
                      ค าสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการจะก าหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ แต่ต้องระบุไว้ด้วย                               การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่งไม่เป็นเหตุให้หน่วยงานของรัฐพ้นจากความรับผิด
               ว่าที่เปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใดและเพราะเหตุใด และให้ถือว่าการมีค าสั่งเปิดเผย                        ตามกฎหมายหากจะพึงมีในกรณีดังกล่าว

               ข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นดุลพินิจ โดยเฉพาะของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามล าดับสายการบังคับบัญชา                                                                        หมวด ๓
               แต่ผู้ขออาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารได้ตามที่ก าหนดในพระราชบัญญัตินี้

                                                                                                                                                                         ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล


                      มาตรา ๑๖ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติว่าข้อมูลข่าวสารของราชการจะเปิดเผยต่อ
               บุคคลใดได้หรือไม่ภายใต้เงื่อนไขเช่นใด และสมควรมีวิธีรักษามิให้รั่วไหลให้หน่วยงานของรัฐก าหนด                                  มาตรา ๒๑ เพื่อประโยชน์แห่งหมวดนี้ “บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
               วิธีการคุ้มครองข้อมูลข่าวสารนั้น ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีก าหนดว่าด้วยการรักษาความลับ                          และบุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

               ของทางราชการ                                                                                                                  มาตรา ๒๒ ส านักข่าวกรองแห่งชาติ ส านักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานของรัฐ

                      มาตรา ๑๗ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดอาจกระทบ                           แห่งอื่นตามที่ก าหนดในกฎกระทรวง อาจออกระเบียบโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
               ถึงประโยชน์ได้เสียของผู้ใด ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแจ้งให้ผู้นั้นเสนอค าคัดค้านภายในเวลาที่ก าหนด แต่ต้อง                  ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่มิให้น าบทบัญญัติวรรคหนึ่ง (๓) ของมาตรา ๒๓ มาใช้บังคับ
               ให้เวลาอันสมควรที่ผู้นั้นอาจเสนอค าคัดค้านได้ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง                       กับข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานดังกล่าวก็ได้

                      ผู้ที่ได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่ง หรือผู้ที่ทราบว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดอาจกระทบ                               หน่วยงานของรัฐแห่งอื่นที่จะก าหนดในกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งนั้น ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ
               ถึงประโยชน์ได้เสียของตน มีสิทธิคัดค้านการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นได้โดยท าเป็นหนังสือถึงเจ้าหน้าที่                    ซึ่งการเปิดเผยประเภทข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง (๓) จะเป็นอุปสรรคร้ายแรง

               ของรัฐผู้รับผิดชอบ                                                                                                     ต่อการด าเนินการของหน่วยงานดังกล่าว

                      ในกรณีที่มีการคัดค้าน เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องพิจารณาค าคัดค้านและแจ้งผลการ                                   มาตรา ๒๓ หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
               พิจารณาให้ผู้คัดค้านทราบโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่มีค าสั่งไม่รับฟังค าคัดค้าน เจ้าหน้าที่ของรัฐจะเปิดเผย                         (๑) ต้องจัดให้มีระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเพียงเท่าที่เกี่ยวข้องและจ าเป็นเพื่อการด าเนินงาน

               ข้อมูลข่าวสารนั้นมิได้จนกว่าจะล่วงพ้นก าหนดเวลาอุทธรณ์ตามมาตรา ๑๘ หรือจนกว่าคณะกรรมการ                                 ของหน่วยงานของรัฐให้ส าเร็จตามวัตถุประสงค์เท่านั้น และยกเลิกการจัดให้มีระบบดังกล่าว
               วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารได้มีค าวินิจฉัยให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นได้ แล้วแต่กรณี                              เมื่อหมดความจ าเป็น






                     40
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54