Page 45 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 45
พระราชบัญญัติ แผ่นบันทึกลักษณะเสียงของคนหรือรูปถ่าย และให้หมายความรวมถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัว
ข้อมูลข่าวสารของราชการ ของผู้ที่ถึงแก่กรรมแล้วด้วย
พ.ศ. ๒๕๔๐ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
“คนต่างด้าว” หมายความว่า บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
และนิติบุคคลดังต่อไปนี้
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. (๑) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่มีทุนเกินกึ่งหนึ่งเป็นของคนต่างด้าว ใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือ
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ให้ถือว่าใบหุ้นนั้นคนต่างด้าวเป็นผู้ถือ
เป็นปีที่ ๕๒ ในรัชกาลปัจจุบัน (๒) สมาคมที่มีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่งเป็นคนต่างด้าว
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ (๓) สมาคมหรือมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าว
ให้ประกาศว่า (๔) นิติบุคคลตาม (๑) (๒) (๓) หรือนิติบุคคลอื่นใดที่มีผู้จัดการหรือกรรมการเกินกึ่งหนึ่ง
โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ เป็นคนต่างด้าว
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยค าแนะน าและยินยอมของรัฐสภา นิติบุคคลตามวรรคหนึ่ง ถ้าเข้าไปเป็นผู้จัดการหรือกรรมการ สมาชิก หรือมีทุนในนิติบุคคลอื่น
ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าผู้จัดการหรือกรรมการ หรือสมาชิก หรือเจ้าของทุนดังกล่าวเป็นคนต่างด้าว
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐” มาตรา ๕ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอ านาจออกกฎกระทรวง
เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
๑
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศ กฎกระทรวงนั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๖ ให้จัดตั้งส านักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการขึ้นในส านักงาน
มาตรา ๓ บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับอื่น ในส่วนที่บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้ ปลัดส านักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานวิชาการและธุรการให้แก่คณะกรรมการ
หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน และคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ และให้ค าปรึกษา
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ แก่เอกชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
“ข้อมูลข่าวสาร” หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูลหรือสิ่งใด ๆ หมวด ๑
ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้นจะท าได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใด ๆ และไม่ว่าจะได้จัดท าไว้ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียง
การบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือวิธีอื่นใดที่ท าให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏได้ มาตรา ๗ หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารของราชการอย่างน้อยดังต่อไปนี้ลงพิมพ์
“ข้อมูลข่าวสารของราชการ” หมายความว่า ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือ ในราชกิจจานุเบกษา
ควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการด าเนินงานของรัฐหรือข้อมูล (๑) โครงสร้างและการจัดองค์กรในการด าเนินงาน
ข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน (๒) สรุปอ านาจหน้าที่ที่ส าคัญและวิธีการด าเนินงาน
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น (๓) สถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารหรือค าแนะน าในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ
รัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ศาลเฉพาะในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี (๔) กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ ค าสั่ง หนังสือเวียน ระเบียบ แบบแผน นโยบาย หรือการตีความ
องค์กรควบคุมการประกอบวิชาชีพ หน่วยงานอิสระของรัฐและหน่วยงานอื่นตามที่ก าหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เฉพาะที่จัดให้มีขึ้นโดยมีสภาพอย่างกฎ เพื่อให้มีผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชนที่เกี่ยวข้อง
“เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า ผู้ซึ่งปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ (๕) ข้อมูลข่าวสารอื่นตามที่คณะกรรมการก าหนด
“ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล เช่น ข้อมูลข่าวสารใดที่ได้มีการจัดพิมพ์เพื่อให้แพร่หลายตามจ านวนพอสมควรแล้ว ถ้ามีการลงพิมพ์
การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม หรือประวัติการท างาน บรรดาที่มีชื่อ ในราชกิจจานุเบกษาโดยอ้างอิงถึงสิ่งพิมพ์นั้นก็ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติวรรคหนึ่งแล้ว
ของผู้นั้นหรือมีเลขหมาย รหัส หรือสิ่งบอกลักษณะอื่นที่ท าให้รู้ตัวผู้นั้นได้ เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ ให้หน่วยงานของรัฐรวบรวมและจัดให้มีข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่งไว้เผยแพร่เพื่อขายหรือ
จ าหน่ายจ่ายแจก ณ ที่ท าการของหน่วยงานของรัฐแห่งนั้นตามที่เห็นสมควร
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๔/ตอนที่ ๔๖ ก/หน้า ๑/๑๐ กันยายน ๒๕๔๐
36