Page 54 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 54

(๑) ตาย

                      (๒) ลาออก
                      (๓) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่อง หรือไม่สุจริตต่อหน้าที่หรือ
               หย่อนความสามารถ

                      (๔) เป็นบุคคลล้มละลาย
                      (๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

                      (๖) ได้รับโทษจ าคุกโดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุก เว้นแต่เป็นโทษส าหรับความผิดที่ได้กระท า
               โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

                      มาตรา ๓๑ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวน
               กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
                      ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ

               ปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
                      การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน

               ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

                      มาตรา ๓๒ ให้คณะกรรมการมีอ านาจเรียกให้บุคคลใดมาให้ถ้อยค าหรือให้ส่งวัตถุ เอกสาร หรือ

               พยานหลักฐานมาประกอบการพิจารณาได้

                      มาตรา ๓๓ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่มีค าขอไม่ว่าจะเป็นกรณี
               ตามมาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๒๕ ถ้าผู้มีค าขอไม่เชื่อว่าเป็นความจริงและร้องเรียนต่อคณะกรรมการ

               ตามมาตรา ๑๓ ให้คณะกรรมการมีอ านาจเข้าด าเนินการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารของราชการที่เกี่ยวข้องได้
               และแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ร้องเรียนทราบ

                      หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องยินยอมให้คณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการ
               มอบหมายเข้าตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของตนได้ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสาร
               ที่เปิดเผยได้หรือไม่ก็ตาม


                      มาตรา ๓๔ คณะกรรมการจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติงานอย่างใด
               อย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้ และให้น าความในมาตรา ๓๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม


                                                         หมวด ๖
                                        คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร


                      มาตรา ๓๕ ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
               ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งตามข้อเสนอของคณะกรรมการ มีอ านาจหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ค าสั่งมิให้

               เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ หรือค าสั่งไม่รับฟังค าคัดค้านตามมาตรา ๑๗ และ
               ค าสั่งไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามมาตรา ๒๕

                      การแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่ง ให้แต่งตั้งตามสาขา
               ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของข้อมูลข่าวสารของราชการ เช่น ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจและ
               การคลังของประเทศ หรือการบังคับใช้กฎหมาย



                                                                                                 45
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59