Page 53 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 53
(๒) หน่วยงานของรัฐเห็นว่า ข้อมูลข่าวสารของราชการนั้น ยังไม่ควรเปิดเผยโดยมีค าสั่ง (๑) ตาย
ขยายเวลาก ากับไว้เป็นการเฉพาะราย ค าสั่งการขยายเวลานั้นให้ก าหนดระยะเวลาไว้ด้วย แต่จะก าหนด (๒) ลาออก
เกินคราวละห้าปีไม่ได้ (๓) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่อง หรือไม่สุจริตต่อหน้าที่หรือ
การตรวจสอบหรือทบทวนมิให้มีการขยายระยะเวลาไม่เปิดเผยจนเกินความจ าเป็นให้เป็นไป หย่อนความสามารถ
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดในกฎกระทรวง (๔) เป็นบุคคลล้มละลาย
บทบัญญัติตามมาตรานี้มิให้ใช้บังคับกับข้อมูลข่าวสารของราชการตามที่คณะรัฐมนตรี (๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ออกระเบียบก าหนดให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องท าลายหรืออาจท าลายได้โดยไม่ต้อง (๖) ได้รับโทษจ าคุกโดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุก เว้นแต่เป็นโทษส าหรับความผิดที่ได้กระท า
เก็บรักษา โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
หมวด ๕ มาตรา ๓๑ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวน
คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ
มาตรา ๒๗ ให้มีคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ประกอบด้วยรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน ปลัดส านักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงกลาโหม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวง ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
มหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการ
ข้าราชการพลเรือน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้อ านวยการส านัก มาตรา ๓๒ ให้คณะกรรมการมีอ านาจเรียกให้บุคคลใดมาให้ถ้อยค าหรือให้ส่งวัตถุ เอกสาร หรือ
ข่าวกรองแห่งชาติ ผู้อ านวยการส านักงบประมาณ และผู้ทรงคุณวุฒิอื่นจากภาครัฐและภาคเอกชน พยานหลักฐานมาประกอบการพิจารณาได้
ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกเก้าคนเป็นกรรมการ มาตรา ๓๓ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่มีค าขอไม่ว่าจะเป็นกรณี
ให้ปลัดส านักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งข้าราชการของส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๒๕ ถ้าผู้มีค าขอไม่เชื่อว่าเป็นความจริงและร้องเรียนต่อคณะกรรมการ
คนหนึ่งเป็นเลขานุการ และอีกสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ตามมาตรา ๑๓ ให้คณะกรรมการมีอ านาจเข้าด าเนินการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารของราชการที่เกี่ยวข้องได้
และแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ร้องเรียนทราบ
มาตรา ๒๘ คณะกรรมการมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) สอดส่องดูแลและให้ค าแนะน าเกี่ยวกับการด าเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงาน หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องยินยอมให้คณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการ
ของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ มอบหมายเข้าตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของตนได้ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสาร
(๒) ให้ค าปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ที่เปิดเผยได้หรือไม่ก็ตาม
ตามที่ได้รับค าขอ มาตรา ๓๔ คณะกรรมการจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติงานอย่างใด
(๓) เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบของคณะรัฐมนตรี อย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้ และให้น าความในมาตรา ๓๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ตามพระราชบัญญัตินี้ หมวด ๖
(๔) พิจารณาและให้ความเห็นเรื่องร้องเรียนตามมาตรา ๑๓ คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
(๕) จัดท ารายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้เสนอคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งคราว
ตามความเหมาะสม แต่อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง มาตรา ๓๕ ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
(๖) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ก าหนดในพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งตามข้อเสนอของคณะกรรมการ มีอ านาจหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ค าสั่งมิให้
(๗) ด าเนินการเรื่องอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ หรือค าสั่งไม่รับฟังค าคัดค้านตามมาตรา ๑๗ และ
มาตรา ๒๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งตามมาตรา ๒๗ มีวาระอยู่ในต าแหน่งคราวละ ค าสั่งไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามมาตรา ๒๕
สามปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง ผู้ที่พ้นจากต าแหน่งแล้วอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้ การแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่ง ให้แต่งตั้งตามสาขา
ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของข้อมูลข่าวสารของราชการ เช่น ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจและ
มาตรา ๓๐ นอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้ง การคลังของประเทศ หรือการบังคับใช้กฎหมาย
ตามมาตรา ๒๗ พ้นจากต าแหน่ง เมื่อ
44