Page 37 - หนังสือรับรองการเกิด
P. 37
29
บังคับ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ แล้วก็ต�ม และแม้ว่�จะมีก�รออกกฎหม�ยเป็นก�รเฉพ�ะ เป็นกฎกระทรวง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑
ก็ยังมีผู้ที่ไม่นำ�กระบวนก�รที่กฎหม�ยบัญญัติไว้ม�เป็นส่วนหนึ่งของก�รให้บริก�รประช�ชน ยังให้ผลเกิดขึ้นกับเจ้�หน้�ที่
และผู้ยื่นคำ�ร้อง โดยมักจะเป็นผลร้�ย ได้แก่ ประช�ชนไม่ได้รับก�รบริก�รที่สมบูรณ์ต�มกฎหม�ย อันอ�จจะเป็นก�รเสีย
สิทธิในหล�ยๆ เรื่อง แต่ประช�ชนนั้น ยังมีโอก�สที่จะยื่นเรื่องให้พิจ�รณ�ใหม่ได้ เพียงแต่เสียเวล�เสียโอก�สเท่�นั้น ส่วน
เจ้�หน้�ที่นี่แหละ อ�ก�รน่�จะหนักกว่� เพร�ะถ้�ไม่ปฏิบัติต�มขั้นตอนที่กฎหม�ยบัญญัติไว้ ผลที่ได้รับ ก็คือ ก�รต้องตอบ
คำ�ถ�มของคณะกรรมก�รสอบสวนข้อเท็จจริง ห�กพบว่� บกพร่อง หรือละเว้นก�รปฏิบัติต่อหน้�ที่อันเกิดคว�มเสียห�ย
ต่อประช�ชนและร�ชก�รแล้ว ก็อ�จจะถูกตั้งคณะกรรมก�รสอบสวนท�งวินัย ผลสุดท้�ยของก�รถูกลงโทษท�งวินัยไม่ว่�จะ
หนักเบ�ขน�ดไหน ใครที่เป็นข้�ร�ชก�รไม่ว่�จะสังกัดส่วนร�ชก�ร หรือส่วนท้องถิ่น ห�กไม่ต้องก�รถูกกล่�วห�ว่� ปฏิบัติ
ร�ชก�รบกพร่อง ก็ควรศึกษ�กฎหม�ยที่เกี่ยวกับก�รปฏิบัติหน้�ที่ของตนให้ม�กที่สุด จะได้ใช้วิจ�รณญ�ณได้ด้วยตนเอง
เพร�ะก�รไปฟังคนอื่นเล่�ม� โดยที่อธิบ�ยคว�มไม่ครบถ้อยกระบวนคว�ม ก็จะเสี่ยงภัยอยู่เสมอ ผมเชื่อว่� ผู้ที่เป็นข้�ร�ช
ก�รทุกฅนล้วนผ่�นร้อนผ่�นหน�วม�เยอะ คว�มพย�ย�ม หรือมุ่งเรียนรู้อีกเพียงเล็กน้อย ก็จะมีองค์คว�มรู้ที่เป็นเกร�ะคุ้ม
ภัยให้กับตนเองได้เป็นอย่�งดี และที่สำ�คัญคือ เมื่อรู้ลึก รู้ดีแล้ว ไม่ควรแสวงห�ผลประโยชน์ในท�งมิชอบกับผู้ขอรับบริก�ร
อันนี้แหละ คือ สุดยอดปร�รถน�ของกระผม ที่จะได้พบกับเจ้�หน้�ที่ของรัฐที่มีอุดมก�รณ์ในก�รให้บริก�รที่ประทับใจ มี
คว�มสุขใจเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของประช�ชน หลังก�รให้บริก�รที่สำ�เร็จได้รับเอกส�รด้วยคว�มถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์
ต�มกฎหม�ย
ก�รอ้�งพย�นหลักฐ�นที่น�ยทะเบียนฯมัก ระบุว่� “ยังไม่มีหลักฐ�นแสดงว่� เป็นผู้เกิดในร�ชอ�ณ�จักรไทยที่มี
น้ำ�หนักเพียงพอ” นั้น ขอทร�บว่� หลักฐ�นที่นำ�เสนอให้น�ยทะเบียนฯ พิจ�รณ� มีข้อบกพร่องใดที่น�ยทะเบียนอ้�งว่�
“น้ำ�หนักไม่เพียงพอ” นั้น จะต้องนำ�พย�นหลักฐ�นใดม�อ้�งอิงต่อน�ยทะเบียนฯ ม�กน้อยขน�ดไหน ถึงจะเข้�ขั้น ที่มี
น้ำ�หนักเพียงพอ
แนวท�งปฏิบัติ : ก�รสอบสวนพย�นบุคคลที่เข้�รับก�รสอบสวนป�กคำ� น�ยทะเบียนควรจะสอบสวนป�กคำ�
พย�นบุคคลทุกคนถึงสถ�นที่เกิดของผู้ยื่นคำ�ร้องให้ได้คว�มจริงจ�กพย�นให้ม�กที่สุด ว่� พย�นบุคคลดังกล่�วได้รู้เห็นก�ร
เกิดและสถ�นที่เกิดของผู้ยื่นคำ�ร้องอย่�งแน่นอนว่� สถ�นที่เกิดๆ ที่ใด และถ้�มีคว�มทรงจำ�แม่นยำ�ถึงขน�ดจำ�เหตุก�รณ์ ณ
ปีที่เด็กคนนั้นเกิดได้ด้วยแล้ว ย่อมแสดงถึงก�รรู้เห็นถึงสถ�นที่เกิดและรู้เห็นก�รเกิดของผู้ยื่นคำ�ร้องจริง หรืออ�จจะเห็นเมื่อ
ช่วงระยะเวล�ของก�รตั้งครรภ์ของแม่เด็ก และเห็นว่�แม่เด็กมีท�รกม�เลี้ยงดูตั้งแต่วัยเย�ว์ จนเติบโตม�เป็นเด็ก ไม่ว่�จะเห็น
ม�ตลอดช่วงอ�ยุที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ หรือได้เห็นเป็นช่วงๆ และเมื่อพบเห็นในปัจจุบัน ยืนยันว่� เป็นบุคคลฅนเดียวกันกับ
ที่ตนเห็นเมื่อคร�วที่แม่คลอดออกม� และถ้�เห็นว่�เกิดในเขตประเทศไทยด้วยแล้ว ยิ่งต้องบันทึกไว้ให้ชัดเจน เพร�ะคำ�ตอบ
คำ�นี้เป็นคำ�ให้ก�รที่สำ�คัญอย่�งยิ่ง”
ต�มเจตน�รมณ์ของก�รตร�กฎหม�ยฉบับนี้ ต้องก�รสืบห�คว�มจริงถึงกรณีที่มีบุคคลเกิดในประเทศ แต่ไม่ได้
แจ้งก�รเกิด หรือไม่ส�ม�รถแจ้งก�รเกิดได้ หรือเคยมีหลักฐ�นเกี่ยวกับก�รเกิด แต่ปัจจุบันไม่มี หรือท�งร�ชก�รไม่ส�ม�รถ
ออกหลักฐ�นท�งทะเบียนร�ษฎรให้ได้อีกแล้ว จึงใช้วิธีก�รออกหนังสือรับรองให้แทน ซึ่งก�รไม่เชื่อถ้อยคำ�ของพย�นบุคคล
หรือก�รที่ไม่ส�ม�รถห�พย�นเอกส�รม�ยืนยันได้ น�ยทะเบียนฯ จะต้องห�เหตุผลหรือพย�นหลักฐ�นใดๆ ม�หักล้�ง ลด
คว�มน่�เชื่อถือ หรือลบล้�งข้ออ้�งจ�กพย�นหลักฐ�นอย่�งชัดเจน มิใช่อ้�งเพียงลอยๆ ว่� พย�นหลักฐ�นไม่มีน้ำ�หนัก ซึ่ง
ถือว่� เป็นก�รใช้วิธีพิจ�รณ�ที่ขัดกับหลักก�รที่วิญญูชนพึงกระทำ� ส่วนพย�นบุคคลที่ให้ถ้อยคำ�ต่อน�ยทะเบียนฯ นั้น ย่อม
ที่จะต้องรับผิดต่อถ้อยคำ�ที่ให้ไว้ทุกประก�ร อีกทั้งยังมีประมวลกฎหม�ยอ�ญ� ม�ตร� ๑๓๗ ที่เป็นบทบัญญัติที่มีโทษท�ง
อ�ญ� ซึ่งพย�นของข้�พเจ้�ตระหนักอย่�งยิ่ง ที่จะไม่กระทำ�ผิดกฎหม�ยในก�รให้ถ้อยคำ�อันเป็นเท็จต่อน�ยทะเบียนฯ
เรื่องเล่าเคล้าสิทธิมนุษยชน...ว่าด้วย "หนังสือรับรองการเกิด" และองค์ความรู้เกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร