Page 31 - หนังสือรับรองการเกิด
P. 31
23
สรุป
ที่เล่�ม�ทั้งมวลนี้ เริ่มต้นเรียบเรียงเรื่องนี้ เพร�ะต้องใช้ครั้งแรกที่โครงก�รอบรมห้องเรียนกฎหม�ยของมูลนิธิ
ศึกษ�พัฒน�ประช�ชนบนที่สูง(พปส.)ที่จัดขึ้น ณ วิทย�ลัยเทคโนโลยีวิรุณบริห�รธุรกิจ หรือ VBAC เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๕
ที่จังหวัดเชียงร�ย ๒ รุ่น และเผยแพร่ในรูปแบบท�งอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตเอกส�รในก�รฝึกอบรมม�ระยะหนึ่ง แต่ยัง
มีคว�มต้องก�ร เพื่อก�รทำ�คว�มเข้�ใจอยู่เนืองๆ เพร�ะยังมีบุคคลที่เกิดในร�ชอ�ณ�จักรไทยที่ยังไม่มีสูติบัตรอีกจำ�นวน
ม�กม�ย ที่ต้องก�รหนังสือรับรองก�รเกิด(ท.ร.๒๐/๑) สำ�หรับไว้ใช้แสดงว่�เกิดในร�ชอ�ณ�จักรไทย ไม่ว่�จะเพื่อนำ�ไป
ใช้ประโยชน์ใดๆ นับจำ�นวนไม่ถ้วน จึงมีคำ�ถ�มคำ�ตอบสอบถ�มอย่�งม�กม�ย บ�งส่วนได้เพิ่มเติม ปรับปรุงไว้ในเนื้อห�
แล้ว และมีบ�งเรื่องที่เป็นหนังสือซักซ้อมคว�มเข้�ใจ จ�กสำ�นักทะเบียนกล�ง แจ้งเวียนไปยังทุกสำ�นักทะเบียน แต่อ�จจะ
ไม่ทั่วถึง องค์คว�มรู้ที่เผยแพร่นี้ น่�จะเป็นเรื่องที่จะบรรเท�และอ�จจะแก้ไขปัญห�ที่เกิดขึ้นในสังคมได้ระดับหนึ่ง เรื่องร�ว
ต่�งๆ จะต้องรณรงค์กันต่อไปอีกน�นเพียงใด ยังไม่ทร�บ และจะมีเรื่องเล่�แบบนี้เพิ่มเติม มีตัวอย่�งม�กม�ย ในอน�คต
อ�จจะมีคำ�พิพ�กษ�ศ�ลปกครองสูงสุดในเรื่องก�รออกหนังสือรับรองก�รเกิด(ท.ร.๒๐/๑)ม�เผยแพร่บ้�งก็ได้ ในฉบับนี้
เป็นเพียงเรื่องเล่�เคล้�สิทธิมนุษยชน เพร�ะก�รมีเอกส�รที่แสดงก�รเกิด ระบุชื่อ ได้รับก�รกำ�หนดสัญช�ติ ถือเป็นเรื่องที่
กำ�หนดกันไว้ในปฏิญญ�ส�กลว่�ด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีผู้แทนของประเทศไทยเข้�ร่วมให้ก�รรับรองในก�รประชุมประเทศ
สม�ชิกองค์ก�รสหประช�ช�ติม�ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ธันว�คม ค.ศ.๑๙๔๘(พ.ศ.๒๔๙๑) และในภ�ยหลังก็มีพันธกรณีระหว่�ง
ประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่เข้�เป็นภ�คีอีกหล�ยฉบับ ซึ่งต้องปฏิบัติต�มพันธกรณีระหว่�งประเทศเหล่�นั้นอย่�งหลีก
เลี่ยงไม่ได้ กรณีเช่นนี้เพิ่งจะเข้�ม�มีบทบ�ทและเผยแพร่ม�กขึ้น หลังจ�กมีก�รตั้งคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
ใน พ.ศ. ๒๕๔๒ และเข้มขึ้นเมื่อมีก�รแก้ไขกฎหม�ยว่�ด้วยก�รทะเบียนร�ษฎร ใน พ.ศ.๒๕๕๑ กรณีนี้ จึงถือว่� สิทธิ
มนุษยชนเข้�ม�มีคว�มสำ�คัญเริ่มตั้งแต่ก�รมีเอกส�รที่แสดงว่�เกิดเมื่อใด เกิดที่ไหน ใครเป็นผู้ให้กำ�เนิด(ถ้�ทร�บ) ถือเป็น
สิทธิขั้นพื้นฐ�นของมนุษย์ หน่วยร�ชก�รที่เรียกว่� สำ�นักทะเบียน ผู้ปฏิบัติหน้�ที่ต�มที่กฎหม�ยมอบอำ�น�จม�ให้ คือ
น�ยทะเบียน ปลัดอำ�เภอ ผู้ช่วยน�ยทะเบียน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภ�คส่วน ถือได้ว่� มีส่วนร่วมในก�รจรรโลงสิทธิ
มนุษยชนเป็นอย่�งดีเพร�ะ(แล้วต่อด้วยถ้อยคำ�ที่เริ่มต้นในย่อหน้�....ก�รที่มีบุคคล...จนหมดข้อคว�ม ซึ่งมีก�รปรับในลำ�ดับถัดไป)
ก�รที่มีบุคคลที่เกิดม�แล้วไม่มีเอกส�รแสดงว่�เกิดที่ใด ถือเป็นข้อบกพร่องของรัฐนั้นๆ เพร�ะเป็นก�รละเมิดข้อ
ตกลงระหว่�งประเทศ หรือแม้แต่ก�รไม่ปฏิบัติต�มกฎหม�ยภ�ยในประเทศของตนเองก็ต�ม สิ่งที่เป็นผลกระทบต�มม�อีก
ม�กม�ย เพียงแค่จุดเริ่มต้นไม่ทำ�ง�น ไม่ปฏิบัติต�มกฎหม�ย เพร�ะฉะนั้น จึงต้องเป็นคว�มร่วมมือระหว่�งผู้ที่มีบุตรเกิด
ใหม่ เจ้�บ้�น หรือผู้ปกครองและเจ้�หน้�ที่ของรัฐที่มีหน้�ที่ มีอำ�น�จต�มกฎหม�ย ห�กมิได้แจ้งก�รเกิดแล้ว กฎหม�ยได้เปิด
โอก�สให้ขอรับเอกส�รสำ�คัญ เพื่อใช้เป็นพย�นยืนยันว่� เกิดในประเทศ ก็เพียงพอ ส่วนว่� หลังจ�กนั้น ผู้ได้รับเอกส�ร
จะนำ�ไปใช้ประโยชน์ใด ไม่ใช่หน้�ที่ของน�ยทะเบียนที่จะไปก้�วล่วงสิทธิส่วนบุคคลของเข� ขอให้น�ยทะเบียนทำ�หน้�ที่ของ
ตนต�มกฎหม�ยให้ดีที่สุด ให้เป็นไปต�มรัฐธรรมนูญแห่งร�ชอ�ณ�จักรไทย ฉบับ พ.ศ.๒๕๕๐ ม�ตร� ๗๔ ที่บัญญัติไว้ว่�
“บุคคลผู้เป็นข้�ร�ชก�ร พนักง�น ลูกจ้�งของหน่วยร�ชก�ร หน่วยง�นของรัฐรัฐวิส�หกิจ หรือเจ้�หน้�ที่อื่นของ
รัฐ มีหน้�ที่ดำ�เนินก�รให้เป็นไปต�มกฎหม�ยเพื่อรักษ�ประโยชน์ส่วนรวมอำ�นวยคว�มสะดวก และให้บริก�รแก่ประช�ชน
ต�มหลักธรรม�ภิบ�ลของก�รบริห�รกิจก�รบ้�นเมืองที่ดี
ในก�รปฏิบัติหน้�ที่และในก�รปฏิบัติก�รอื่นที่เกี่ยวข้องกับประช�ชน บุคคลต�มวรรคหนึ่งต้องว�งตนเป็นกล�ง
ท�งก�รเมือง
ในกรณีที่บุคคลต�มวรรคหนึ่งละเลยหรือไม่ปฏิบัติให้เป็นไปต�มหน้�ที่ต�มวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียย่อมมีสิทธิขอให้บุคคลต�มวรรคหนึ่ง หรือผู้บังคับบัญช�ของบุคคลดังกล่�ว ชี้แจง แสดงเหตุผล และ
ขอให้ดำ�เนินก�รให้เป็นไปต�มบทบัญญัติในวรรคหนึ่งหรือวรรคสองได้”
เรื่องเล่าเคล้าสิทธิมนุษยชน...ว่าด้วย "หนังสือรับรองการเกิด" และองค์ความรู้เกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร