Page 12 - หนังสือรับรองการเกิด
P. 12

4



            มูลเหตุที่เด็กทำ�ให้หล�ยฅนไม่มีสูติบัตร

                    นับตั้งแต่พระร�ชบัญญัติก�รทะเบียนร�ษฎร พ.ศ.๒๔๙๙ ประก�ศใช้บังคับ จนกระทั่งถึงวันที่หน่วยร�ชก�รของ
            ไทยนำ�เอ�ระบบคอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูลของบุคคลเข้�ม�ใช้ประโยชน์โดยเริ่มอย่�งเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ ๑ มกร�คม พ.ศ.
            ๒๕๒๗ จนถึงวันที่มีพระร�ชบัญญัติก�รทะเบียนร�ษฎร พ.ศ.๒๕๓๔ ยกเลิกพระร�ชบัญญัติก�รทะเบียนร�ษฎร พ.ศ.

            ๒๔๙๙ บรรด�กฎ ระเบียบ ประก�ศ คำ�สั่ง และหนังสือสั่งก�รต่�งๆ จึงมีอันต้องถูกยกเลิกไปด้วย ในส่วนของบุคคล

            สัญช�ติไทย หรือบุคคลต่�งด้�วที่เข้�เมืองโดยชอบด้วยกฎหม�ย ส่วนจะได้รับอนุญ�ตให้มีถิ่นที่อยู่ถ�วร หรือได้รับก�รผ่อน
            ผันให้อยู่ชั่วคร�ว หรือบ�งร�ยอ�จจะกล�ยเป็นบุคคลที่เข้�เมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหม�ย ก็ม�กม�ย เมื่ออยู่ๆ ไป อ�จจะ
            มีคว�มรักเกิดคว�มสัมพันธ์จนมีบุตรด้วยกันระหว่�งบุคคลสัญช�ติไทยกับบุคคลต่�งด้�ว  หรือระหว่�งบุคคลต่�งด้�วด้วยกัน

            ในท�งกฎหม�ยนั้น  เมื่อมีเด็กเกิดต�มปกติจะต้องไปแจ้งก�รเกิดต่อน�ยทะเบียนผู้รับแจ้งภ�ยใน  ๑๕  วัน  แต่ห�กใครที่

            เป็นบุคคลต่�งด้�ว เมื่อได้พบกับก�รออกกฎกระทรวงฉบับที่ออกเมื่อวันที่ ๔ กันย�ยน ๒๕๓๕ นี้ จะทำ�อย่�งไรดี ม�
            ดูกฎกระทรวงที่ประก�ศเรื่องนี้กัน แล้วค่อยม�เรียนรู้กันต่อไปว่� จะทำ�อย่�งไรกับบุคคลที่อยู่ในสถ�นก�รณ์นี้ เมื่อ พ.ศ.
            ๒๕๓๕ เป็นต้นม�ถึง พ.ศ.๒๕๔๘




                    เมื่อศึกษ�แล้ว คิดว่� ถ้�ท่�นเป็นบุคคลที่เข้�เมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหม�ย มีบุตร ด้วยกันระหว่�งบุคคลสัญช�ติ
            ไทยกับบุคคลต่�งด้�ว หรือระหว่�งบุคคลต่�งด้�วด้วยกัน บุตรเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ จะต้องไปแจ้งก�รเกิดต่อน�ยทะเบียน
            ผู้รับแจ้งภ�ยใน ๑๕ วัน แต่เมื่อน�ยทะเบียนผู้รับแจ้ง ยกเอ�กฎกระทรวงฉบับนี้ม�อ่�นให้ได้ทร�บ ส่วนจะอ่�นทั้งหมด

            หรืออ่�นเฉพ�ะบ�งส่วน หรือให้ช�วบ้�นอ่�นเอง ก้สุดแล้วแต่ ส่วนช�วบ้�นอ่�นแล้วจะเข้�ใจว่� อย่�งไร จะมีก�รอธิบ�ย

            อย่�งไร หรือไม่ ก็เกินจะค�ดเด� หล�ยฅนอ�จจะเข้�ใจว่� กฎหม�ยที่รัฐมนตรีว่�ก�รกระทรวงมห�ดไทย ผู้รักษ�ก�รต�ม
            กฎหม�ย ออกประก�ศยกเว้นแบบนี้แล้ว ไม่ต้องแจ้งก�รเกิด ก็ได้ เดินกลับบ้�น และอ�จจะยังเก็บเอกส�รที่เกี่ยวข้อง หรือ
            ทิ้งเอกส�รนั้น หรือภ�ยหลังเมื่อย้�ยถิ่นที่อยู่ ก็ไม่ได้ให้คว�มสนใจ เพร�ะถือว่� ไม่มีประโยชน์แล้ว แต่อ�จจะมีเจ้�หน้�ที่บ�ง

            ฅนที่อ่�นกฎกระทรวงให้ฟังไปถึงข้อ ๒ ไปจนถึงบรรทัดสุดท้�ย ที่บอกว่� “คนต่�งด้�วซึ่งได้รับก�รยกเว้นก�รปฏิบัติต�ม

            วรรคหนึ่ง ห�กประสงค์จะดำ�เนินก�รต�มข้อ ๑ อ�จขอให้น�ยทะเบียนดำ�เนินก�รได้” ถ้�มีก�รพูดคุยซักถ�มกัน หรือเจ้�
            หน้�ที่เปิดโอก�ส ก็อ�จจะรับแจ้งก�รเกิดออกสูติบัตรให้ ห�กบันทึกข้อมูลต่�งๆ ถูกต้องครบถ้วน ก็ดีไป ได้เอกส�รสำ�คัญ
            ที่น�ยทะเบียนผู้รับแจ้งออกให้ มีชื่อ ร�ยก�รบุคคลของเด็กในเอกส�รก�รทะเบียนร�ษฎร เข้�ระบบแล้ว ก็คงไม่ยุ่งย�กอะไร

                    เรื่องร�วที่ต้องม�เรียนรู้ร่วมกันในที่นี้ ก็เพร�ะ บุคคลต่�งด้�วจำ�นวนม�กเมื่อทร�บถึงกฎกระทรวง ฉบับ พ.ศ.

            ๒๕๓๕ ดังกล่�ว หรือต่อม�บรรด�น�ยทะเบียนผู้รับแจ้งก�รเกิดไม่รับแจ้งก�รเกิดให้กับบุตรบุคคลต่�งด้�วที่เข้�เกณฑ์ของ
            กฎกระทรวง โดยมิได้บังคับว่� จะต้องมีก�รบันทึกชื่อ ร�ยก�รบุคคลไว้ด้วยทุกฅน จึงเป็นเหตุให้บุตรบุคคลต่�งด้�วจำ�นวน
            ม�กไม่ได้รับก�รบันทึกข้อมูลร�ยก�รบุคคล และชื่อในระบบฐ�นข้อมูลก�รทะเบียนร�ษฎร ไม่มีเอกส�รแสดงก�รเกิดจ�ก

            น�ยทะเบียนฯ

                    เมื่อวันเวล�ผ่�นพ้นไป บุคคลเหล่�นี้ จะมีคว�มหวังอะไรอย่�งไรหรือไม่ ไม่มีใครค�ดเด�ได้ จนกระทั่งเมื่อมีกฎหม�ยว่�
            ด้วยสัญช�ติแก้ไขฉบับที่ ๔ ที่คืนสิทธิในก�รได้สัญช�ติไทยโดยอ�ศัยก�รเกิดในร�ชอ�ณ�จักรไทยต�มหลักดินแดนเป็นหลักเพร�ะ
            กฎหม�ยสัญช�ติฉบับ พ.ศ.๒๕๐๘ ม�ตร� ๗ (๓) ยังไม่ถูกยกเลิก จึงยังคงให้สิทธิกับบุตรของบุคคลต่�งด้�วที่เกิดในร�ช

            อ�ณ�จักรไทยก่อนวันที่ประก�ศคณะปฏิวัติ (ปว.) ฉบับที่ ๓๓๗ เมื่อวันที่ ๑๓ ธันว�คม ๒๕๑๕ แม้ว่�จะถูกถอนสัญช�ติ

            ไทยเพร�ะบุตรบุคคลต่�งด้�วฅนนั้น เคยได้สัญช�ติไทย และ ปว.๓๓๗ บัญญัติไว้ไม่ให้บุตรบุคคลต่�งด้�วที่เข้�เมืองอยู่
            ชั่วคร�ว หรือเข้�เมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหม�ยที่เกิดถึงวันที่ ๒๕ กุมภ�พันธ์ ๒๕๓๕ รวมถึงรุ่นหล�นที่เกิดถึงวันที่ ๒๗
            กุมภ�พันธ์ ๒๕๕๑ ก็จะไม่ได้สัญช�ติไทยด้วย แต่เมื่อพระร�ชบัญญัติสัญช�ติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ ที่ประก�ศมีผล




                          เรื่องเล่าเคล้าสิทธิมนุษยชน...ว่าด้วย "หนังสือรับรองการเกิด" และองค์ความรู้เกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17