Page 88 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 88

เพื่อประโยชน์แห่งความในวรรคหนึ่ง ไม้ซุงหรือไม้ท่อนที่จมอยู่ในแม่นํ้าลําคลองในรัศมีห้าสิบ
                       เมตรของบริเวณที่ทําการแปรรูปไม้ และไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของให้สันนิษฐานว่าเป็นไม้ที่อยู่ในความ
                       ครอบครองของผู้รับอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ที่มีโรงงานอยู่ในบริเวณนั้นความในวรรคหนึ่ง ให้

                       หมายความรวมถึงการกระทําแก่ไม้ที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรด้วย
                                                                         ่
                              มาตรา 54 ห้ามมิให้ผู้ใดก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาปา หรือกระทําด้วยประการใด ๆ อันเป็น
                                 ่
                                                             ่
                       การทําลายปา หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองปาเพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทําภายในเขตที่ได้
                       จําแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรมและรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือโดยได้รับ
                       ใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ
                       เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
                                                      ่
                                                                          ่
                              มาตรา 55 ผู้ใดครอบครองปาที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝาฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้
                                                            ่
                       สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางปานั้น

                              มาตรา 64 ทวิ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจยึดบรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์พาหนะ
                       ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใด ๆ ที่บุคคลได้ใช้หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทํา
                       ความผิด หรือเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทําความผิดตามมาตรา 11 มาตรา 48 มาตรา 54 หรือ
                                                                                                 ้
                       มาตรา 69 ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ จนกว่าพนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟองคดีหรือ
                       จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นของผู้กระทําความผิดหรือของผู้มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็น
                       ผู้กระทําความผิดหรือไม่
                                                                                    ้
                              ทรัพย์สินที่ยึดไว้ตามวรรคหนึ่ง ถ้าพนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟองคดีหรือศาลไม่พิพากษา
                       ให้ริบ และผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองมิได้ร้องขอรับคืนภายในกําหนดหกเดือนนับแต่วันทราบ หรือ
                                                 ้
                                                                                                         ่
                       ถือว่าได้ทราบคําสั่งเด็ดขาดไม่ฟองคดีหรือวันที่คําพิพากษาถึงที่สุด แล้วแต่กรณี ให้ตกเป็นของกรมปา
                       ไม้
                              ถ้าทรัพย์สินที่ยึดไว้จะเป็นการเสี่ยงความเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาจะเกินค่า
                       ของทรัพย์สิน รัฐมนตรีหรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบหมายจะจัดการขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นก่อนถึงกําหนด

                       ตามวรรคสองก็ได้ ได้เงินเป็นจํานวนสุทธิเท่าใดให้ยึดไว้แทนทรัพย์สินนั้น
                              มาตรา 64 ตรี ในกรณีทรัพย์สินที่ยึดไว้ตามมาตรา 64 ทวิ มิใช่เป็นของผู้กระทําความผิด
                       หรือของผู้มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นผู้กระทําความผิดให้พนักงานเจ้าหน้าที่โดยอนุมัติรัฐมนตรีคืน

                       ทรัพย์สินหรือเงิน แล้วแต่กรณี ให้แก่เจ้าของก่อนถึงกําหนดตามมาตรา 64 ทวิได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
                              (1)  เมื่อทรัพย์สินนั้นไม่จําเป็นต้องใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้

                       ทรัพย์สินนั้นถูกยึด และ
                              (2) เมื่อผู้กระทําความผิดหรือผู้มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นผู้กระทําความผิดได้ทรัพย์สินนั้นมา
                       จากผู้เป็นเจ้าของโดยการกระทําความผิดทางอาญา

                              มาตรา 69 ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรา
                       ค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้อง
                       ระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

                              ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าไม้ที่มีไว้ในครอบครองเป็น


                                                                                                      5‐16
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93