Page 90 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 90
่
่
่
“ปาสงวนแห่งชาติ” หมายความว่า ปาที่ได้กําหนดให้เป็นปาสงวนแห่งชาติตาม
พระราชบัญญัตินี้
่
่
่
มาตรา 6 บรรดาปาที่เป็นปาสงวนอยู่แล้วตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและสงวนปาก่อน
่
วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้เป็นปาสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้
่
่
่
่
เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรกําหนดปาอื่นใดเป็นปาสงวนแห่งชาติ เพื่อรักษาสภาพปาไม้ ของปา
่
หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น ให้กระทําได้โดยออกกฎกระทรวงซึ่งต้องมีแผนที่แสดงแนวเขตปาที่
่
กําหนดเป็นปาสงวนแห่งชาตินั้นแนบท้ายกฎกระทรวงด้วย
่
่
มาตรา 7 การเปลี่ยนแปลงเขตหรือการเพิกถอนปาสงวนแห่งชาติปาใด ไม่ว่าทั้งหมดหรือ
บางส่วน ให้กระทําได้โดยออกกฎกระทรวง และเฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเพิกถอนบางส่วน
ให้มีแผนที่แสดงแนวเขตที่เปลี่ยนแปลง หรือเพิกถอนนั้นแนบท้ายกฎกระทรวงด้วย
้
่
มาตรา 8 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีหลักเขตและปายหรือเครื่องหมายอื่นแสดงแนวเขตปา
่
สงวนแห่งชาติไว้ตามสมควรเพื่อให้ประชาชนเห็นได้ว่าเป็นเขตปาสงวนแห่งชาติ
มาตรา 9 ให้ปิดประกาศสําเนากฎกระทรวงและแผนที่ท้ายกฎกระทรวง ตามมาตรา 6 วรรค
สอง หรือมาตรา 7 ไว้ ณ ที่ทําการอําเภอหรือกิ่งอําเภอท้องที่ที่ทําการกํานันท้องที่ และที่เปิดเผยเห็น
ได้ง่ายในหมู่บ้านท้องที่นั้น
่
มาตรา 12 บุคคลใดอ้างว่ามีสิทธิ หรือได้ทําประโยชน์ในเขตปาสงวนแห่งชาติใดอยู่ก่อนวันที่
่
กฎกระทรวงกําหนดปาสงวนแห่งชาตินั้นใช้บังคับ ให้ยื่นคําร้องเป็นหนังสือต่อนายอําเภอหรือ
ปลัดอําเภอผู้เป็นหัวหน้าประจํากิ่งอําเภอท้องที่ภายในกําหนดเก้าสิบวัน นับแต่วันที่กฎกระทรวงนั้นใช้
บังคับถ้าไม่ยื่นคําร้องภายในกําหนดดังกล่าว ให้ถือว่าสละสิทธิหรือประโยชน์นั้น
คําร้องดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ให้นายอําเภอหรือปลัดอําเภอผู้เป็นหัวหน้าประจํากิ่งอําเภอท้องที่
่
ส่งต่อไปยังคณะกรรมการสําหรับปาสงวนแห่งชาตินั้นโดยไม่ชักช้า
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่กรณีสิทธิในที่ดินที่บุคคลมีอยู่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
่
มาตรา 13 เมื่อคณะกรรมการสําหรับปาสงวนแห่งชาติได้รับคําร้องตามมาตรา 12 แล้ว ให้
สอบสวนตามคําร้องนั้น ถ้าปรากฏว่าผู้ร้องได้เสียสิทธิหรือเสื่อมเสียประโยชน์ ให้คณะกรรมการ
พิจารณากําหนดค่าทดแทนให้ตามที่เห็นสมควร
่
ถ้าผู้ร้องไม่พอใจในค่าทดแทนที่คณะกรรมการสําหรับปาสงวนแห่งชาติกําหนด ผู้ร้องมีสิทธิ
อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในกําหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําวินิจฉัยของคณะกรรมการ คํา
วินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
มาตรา 13 ทวิ ในกรณีที่ส่วนราชการและองค์การของรัฐมีความประสงค์จะใช้พื้นที่บางแห่ง
่
ภายในเขตปาสงวนแห่งชาติเป็นสถานที่ปฏิบัติงานหรือเพื่อประโยชน์ของรัฐอย่างอื่น ให้อธิบดีโดย
อนุมัติรัฐมนตรีมีอํานาจประกาศกําหนดบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่ทางราชการใช้ประโยชน์ภายใน
่
เขตปาสงวนแห่งชาติได้ และในบริเวณดังกล่าวมิให้นํามาตรา 14 และมาตรา 16 มาใช้บังคับแก่การที่
ส่วนราชการหรือองค์การนั้น ๆ จําเป็นต้องกระทําเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานเพื่อใช้
ประโยชน์ในพื้นที่นั้น
5‐18