Page 534 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 534
ั
เมื่อมหาวิทยาลัยทักษิณปกหลักล้อมรั้วพื้นที่พิพาทของผู้ร้องที่ 2 โดยอ้างว่าเป็นที่สาธารณะ
ทุ่งลานโยที่ได้รับอนุญาต ทั้งที่ไม่มีการตรวจสอบแนวเขตที่สาธารณะมาก่อน และราษฎรได้ทํากินมา
ยาวนานมีหลักฐานแน่ชัดมีคําสั่งที่ 47/2551 แต่งตั้งคณะทํางานในการรังวัดออกหนังสือสําคัญสําหรับที่
่
หลวง (นสล.) และนายอําเภอปาพะยอม มีคําสั่งที่ 235/51 แต่งตั้งคณะทํางานเพื่อร่วมชี้รับรองแนวเขต
เพื่อออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง (นสล.) ซึ่งผลการเดินสํารวจปรากฏว่าที่ดินกลุ่มผู้ร้องที่ 2 อยู่ใน
่
เขตปฏิรูปที่ดินโครงการปาเกาะเต่า – คลองเรียน อยู่นอกเขตที่สาธารณะ
ดังนั้น การก่อสร้างมหาวิทยาลัยทักษิณ โดยล้อมรั้วพิพาท ไม่ให้ผู้ร้องที่ 2 เข้าไปทํากินใน
ั
ที่ดินเดิมและยังมีการขุดคลอง ขุดดิน ในพื้นที่พิพาท โดยไม่แก้ไขปญหาใดๆ ให้ผู้ร้อง จึงเป็นการ
ละเมิดสิทธิในที่ดิน และสิทธิในทรัพย์สินของผู้ร้อง
8.5 วิเคราะห์การละเมิดสิทธิ
ั
ปญหาการละเมิดสิทธิในที่ดินในเขตปฏิรูปที่นั้น ไม่ได้มีประเด็นที่มีความขัดแย้งรุนแรง แต่ถ้า
ั
ปญหาดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีอื่นๆ เช่น หน่วยงานราชการ หรือเอกชน ขออนุญาตเข้าใช้
ั
ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ปญหาการละเมิดดังกล่าวจะเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจดูได้
จากการศึกษาทั้ง 5 กรณีประกอบกับเรื่องเรื่องเรียนในคณะอนุกรรมการ พบว่ามีประเด็นละเมิดสิทธิที่
สําคัญคือ
1. หน่วยงานราชการมีความต้องการใช้ประโยชน์ในที่ดิน เช่น กรณีการให้
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เข้ามามีอํานาจในการจัดที่ดิน แม้ว่าคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจะมีการ
รับรองภายหลัง แต่ก็เป็นการจัดที่ดินที่ไม่เป็นธรรม ทําให้เกิดความขัดแย้งระหว่างราษฎรที่ครอบครอง
ที่ดินกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และนําสู่การทําลายอาสินและแจ้งความดําเนินคดีกับชาวบ้านโดย
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ แม้การกระทําดังกล่าว ส.ป.ก. ไม่ใช่ผู้กระทําและเป็นคู่ขัดแย้งหลัก แต่ถือ
ว่า ส.ป.ก. เป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดการละเมิดสิทธิและไม่ธรรมต่อราษฎร
2. ความล่าช้าในการดําเนินการปฏิรูปที่ดิน เช่น โครงการฟื้นฟูพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบ
่
่
วาตภัยจากใต้ฝุนเกย์ปลูกปาทับที่ดินทํากิน ซึ่งผู้ร้องได้ครอบครองและทําประโยชน์ในที่ดินแปลง
่
่
พิพาทจริงตั้งแต่ปี 2526 และผู้ร้องมีใบตอบรับคําขอหนังสือสิทธิทํากินในปาสงวนแห่งชาติ ปารับร่อ
และสลุย และแผนที่ต้นร่าง กลุ่มที่ 480 ของ ส.ป.ก. และพื้นที่มีร่องรอยการทําประโยชน์ แต่เนื่องจาก
การดําเนินการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน(สปก.4-01) ที่ล่าช้าทําให้
่
่
ชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่ปาไม้เข้าจับกุมดําเนินคดีจากการบุกรุกโครงการปลูกปาฟื้นฟูพื้นที่ภาคใต้ที่
่
่
ประสบวาตภัยจากใต้ฝุนเกย์ของกรมปาไม้ในพื้นที่พิพาท กรณีดังกล่าวนี้เกิดจาก ส.ป.ก. ปล่อยปละ
่
่
ละเลยไม่ยอมดูแลที่ดินที่อยู่ความรับผิดชอบ โดยปล่อยให้กรมปาไม้เข้ามาดําเนินการปลูกปา แต่เมื่อ
ราษฎรร้องเรียนก็ไม่ได้เข้ามาดูแล จึงถือว่ากระทําดังกล่าวนี้ เป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดการละเมิดสิทธิและ
ไม่ธรรมต่อราษฎร
8‐99