Page 67 - รายงานฉบับสมบูรณ์ ฉบับย่อ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 67
โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :11
กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 59
(1) การทราบถึงการสิทธิตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546
แม้ว่าพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 จะเป็นกฎหมายหลักและเป็นกฎหมายที่มี
ความชัดเจนในการคุ้มครองและสนับสนุนสิทธิด้านต่าง ๆ ของผู้สูงอายุก็ตาม แต่การก าหนดสิทธิของผู้สูงอายุ
ดังกล่าว มีการก าหนดไว้เพียงสั้น ๆ มิได้อธิบายรายละเอียด หรือหลักเกณฑ์ เพื่อให้หน่วยงานใช้เป็นแนวทาง
ในการปฏิบัติเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมหรือคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุ ท าให้ผู้สูงอายุจึงยังไม่สามารถที่จะใช้สิทธิ
ได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารกับ
ผู้สูงอายุให้ทั่วถึงเท่าที่ควร จึงท าให้ปัจจุบันการให้การช่วยเหลือผู้สูงอายุจากความรุนแรงและการกระท า
ละเมิดทั้งในครอบครัวและภายนอกยังไม่ประสบความส าเร็จ
นอกจากนี้ช่องว่างของมาตรการทางกฎหมายในพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 เนื่องจาก
นิยามค าว่า “ผู้สูงอายุ” ตามฉบับนี้หมายถึง บุคคลซึ่งมีอายุเกินกว่า 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปและมีสัญชาติไทย ท า
ให้การคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท างานหรือลี้ภัยในประเทศไทย ไม่ได้รับสิทธิที่จะ
ได้รับสวัสดิการและการช่วยเหลือจากรัฐทั้งปวง แม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะเป็นผู้ที่เสียภาษีอากรให้รัฐ อันแสดงให้
เห็นถึงความเหลื่อมล้ าและการเลือกปฏิบัติ
(2) การคุ้มครองผู้ถูกกระท าด้วยความรุนแรงในครอบครัว
แม้ว่ากฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระท าด้วยความรุนแรงในครอบครัว จะเป็นกฎหมายที่มีประโยชน์
ต่อการคุ้มครองและช่วยเหลือผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก แต่พบว่า มีช่องว่างทางกฎหมายในเรื่องของการให้
น้ าหนักกับการไกล่เกลี่ยและวิธีการยุติความขัดแย้ง รวมไปถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้มุ่งคุ้มครองรักษา
สถาบันครอบครัวเป็นหลัก มิได้ค านึงถึงผลกระทบทางสิทธิมนุษยชนของผู้สูงอายุ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผู้สูงอายุ
ถูกกระท าและเผชิญกับความรุนแรงซ้ า
นอกจากนี้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้ถูกกระท ารุนแรงในครอบครัวมีการบัญญัติ
คุ้มครองสิทธิบุคคลจากการกระท าที่รุนแรงและการละเมิดเป็นการทั่วไป มิได้เจาะจงถึงการคุ้มครองผู้สูงอายุไว้
เป็นการเฉพาะ ท าให้ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อาจละเลยให้ความส าคัญกับผู้สูงอายุ แต่กลายเป็นว่า
ปฏิบัติเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ไม่ได้ค านึงว่าผู้สูงอายุเป็นบุคคลพิเศษและมีความเปราะบาง
ในมาตรการทางกฎหมายการคุ้มครองผู้เสียหายที่เป็นผู้สูงอายุที่ถูกกระท าความรุนแรงใน
ครอบครัว ในกรณีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้สูงอายุไม่กล้าหรือกลัวที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือมีผู้ข่มขู่ไม่ให้แจ้ง หากมี
บุคคลภายนอกเห็นเหตุการณ์ และปัจจัยส าคัญที่ท าให้ผู้สูงอายุไม่ด าเนินคดีหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจากมีความกังวลว่าผู้กระท าความรุนแรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นญาติสนิทหรือลูกหลานจะถูกด าเนินคดี
ตามกฎหมาย ดังนั้นในบริบทสังคมไทยผู้สูงอายุจึงมักจะไม่เข้าสู่กลไกในทางกฎหมายกรณีเป็นเหยื่อหรือ
ผู้เสียหาย