Page 417 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 417

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                    กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 359

                     เสาหลักแรก (Pillar 0) หมายถึง สวัสดิการขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นการให้เปล่าจากภาครัฐแก่ประชาชน

               ทั่วไป ในประเทศไทยตอนนี้มีเพียง เบี้ยยังชีพคนชราและคนพิการ
                     เสาหลักที่ 1 (Pillar 1) หมายถึง ระบบประกันสังคมเพื่อบรรเทาความยากจน ได้แก่ กองทุน
               ประกันสังคม ซึ่งเป็นการออมระหว่างแรงงานในระบบภาคเอกชนกับนายจ้าง และมีภาครัฐช่วยสมทบ
                     เสาหลักที่ 2 (Pillar 2) หมายถึง การออมภาคบังคับ ได้แก่ กองทุนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการ หรือ
               กบข. ซึ่งรองรับเฉพาะข้าราชการเท่านั้น โดยมีภาครัฐช่วยสมทบ

                     เสาหลักที่ 3 (Pillar 3) หมายถึง การออมภาคสมัครใจ ได้แก่ กองทุนส ารองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุน
               รวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนการออมแห่งชาติ รวมถึงการซื้อประกันชีวิตประเภทการออม
                     เสาหลักที่ 4 (Pillar 4) หมายถึง การออมส่วนบุคคลที่ไม่อยู่ในรูปกองทุน (Non-Pension fund)

               ได้แก่ เงินฝากธนาคาร เงินฝากสหกรณ์ รายได้จากการลงทุน เงินได้จากครอบครัวลูกหลานที่ให้มา ทรัพย์
               สมบัติต่าง ๆ
                     จะเห็นได้ว่าช่องทางในการมีรายได้หลังเกษียณหรือช่วงวัยสูงอายุมีหลายช่องทาง แต่ประเด็นส าคัญคือ
               เพียงพอและเท่าเทียมหรือไม่ เช่น แรงงานในระบบมีหลายกองทุน ทั้งเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประกันสังคม กองทุน
               ส ารองเลี้ยงชีพ ส่วนข้าราชการมีกองทุนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการ (กบข.) เงินบ าเหน็จบ านาญจาก

               กรมบัญชีกลาง ในขณะที่แรงงานนอกระบบมีเพียงกองทุนการออมแห่งชาติเท่านั้น ซึ่งค านวณแล้วว่า มีกลุ่มนี้มี
               ก าลังการออมเฉลี่ยเดือนละ 50-100 บาท เมื่อเกษียณจะได้รับเงินประมาณ 2,000 บาทต่อเดือนต่อคน ซึ่งอยู่
               บนเส้นความยากจนพอดี ดังนั้น ความเท่าเทียมของผู้สูงอายุด้านรายได้ยังมีปัญหา

                     นอกจากนี้ กระทรวงการคลังก าลังด าเนินการเพื่อผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
               ซึ่งจากฐานข้อมูลที่ได้จากการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยประมาณ 11.4 ล้านคน มีประมาณ 4 ล้านคนที่เป็น
               ผู้สูงอายุและยากจนด้วย รัฐบาลในเวลานี้ก าลังเร่งเพิ่มมาตรการเพื่อช่วยเหลือเป็นมาตรการระยะสั้นซึ่งมี
               ลักษณะเป็นเงินให้เปล่าเสียส่วนใหญ่ เช่น ช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน ช่วยเหลือเป็นค่าเดินทางในการไปพบแพทย์
               เป็นต้น


                     นางสาวอรวรรณ์ คูหา (สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์):
               ประเด็นแรก หากสามารถนิยามการเลือกปฏิบัติของประเทศไทยได้ การวิเคราะห์จะชัดเจนมากขึ้น
                     ประเด็นที่สอง สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ มีการ

               ท างานวิจัยด้านผู้สูงอายุและสังคมกรณีผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมภายใต้ระบบการดูแลระยะยาว ข้อมูลที่ได้
               จากงานวิจัยมี ดังนี้
                           1. การรับรู้สิทธิผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ทราบสิทธิของตนเอง ซึ่งมีประเด็นเรื่องความแตกต่างใน
               การเข้าถึงข้อมูลระหว่างในเมืองกับชนบท
                           2. เรื่องความเท่าเทียม สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าการรักษาส าเร็จเสร็จสิ้นได้ในการไปโรงพยาบาล

               เพียงแห่งเดียว แต่หากต้องมีการส่งต่อหรือต้องไปรับการตรวจในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกกว่าเดิมก็
               อาจจะไม่สะดวก เพราะผู้สูงอายุไม่ได้ไปคนเดียว มีญาติ และผู้ติดตาม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ดังนั้น โดย
   412   413   414   415   416   417   418   419   420   421   422