Page 344 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 344

286 | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (Final Report)

             ซึ่งได้ก าหนดกรอบทิศทางและแนวทางการด าเนินงานของแผนปฏิบัติการซึ่งก าหนดหลักการทั่วไปในการถ่าย
             โอนภารกิจรูปแบบการถ่ายโอนและหน้าที่การจัดระบบบริการสาธารณะระหว่างรัฐกับองค์กรปกครองส่วน
             ท้องถิ่น ซึ่งก าหนดให้เทศบาลเมืองพัทยาและองค์การบริการส่วนต าบลมีอ านาจหน้าที่ในการจัดท าบริการ

             สาธารณะด้านการสงเคราะห์และพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส ทั้งนี้มีบทบัญญัติให้
             องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอ านาจหน้าที่ในการสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา
             และผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นการกล่าวถึงการสงเคราะห์และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยรวมไว้กับกลุ่ม
             ผู้ด้อยโอกาสอื่น ๆ ซึ่งเป็นภารกิจสงเคราะห์ผู้สูงอายุ อันได้แก่ สถานสงเคราะห์คนชรา เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

             ศูนย์บริการทางสังคมผู้สูงอายุในชุมชน โดยถ่ายโอนจากรมประชาสงเคราะห์ (เดิม) ไปให้กับองค์กรปกครอง
             ส่วนท้องถิ่น
                       ในการคุ้มครองช่วยเหลือผู้สูงอายุในระดับชุมชนจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นองค์กร
             ผู้รับผิดชอบหลักในการคุ้มครองผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งจะด าเนินการร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน

             ในท้องถิ่นและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้สนับสนุนด้านวิชาการ มีการส่งเสริม
             ให้เกิดโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เพื่อเป็นกลไกในระดับชุมชนในการดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง
             ผู้สูงอายุในชุมชนที่ขาดการดูแล ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามล าพัง ได้รับการดูแลที่ไม่ถูกต้อง ถูก
             ละเมิด เพิกเฉย และยากจน โดยมีอาสาสมัครซึ่งเป็นคนในชุมชนที่ได้รับการฝึกอบรมทักษะเสริมสร้างทัศนคติ

             ให้ความสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ความคุ้มครองสวัสดิภาพและพิทักษ์ผู้สูงอายุ เป็นมาตรการเชิงรุกโดยมุ่งให้การ
                                      290
             ดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุถึงตัวที่บ้าน
                       ซึ่งจากการก าหนดบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่จะให้ความคุ้มครองผู้เสียหายที่เป็นผู้สูงอายุ
             ดังกล่าวเป็นบทบัญญัติที่กว้าง ไม่ชัดเจน คลุมเครือ อีกทั้งหน่วยงานรัฐยังไม่ให้ความส าคัญกับผู้สูงอายุ

             เท่าที่ควร เนื่องจากการที่หน่วยงานหนึ่งจะด าเนินการใดเพื่อประโยชน์ของผู้สูงอายุโครงการหนึ่งจะต้องมีการ
             ส่งเรื่องไปอีกหลายหน่วยงานและมีวิธีการที่ซับซ้อน ท าให้การคุ้มครองช่วยเหลือผู้สูงอายุเกิดความล่าช้าและไม่
             มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อีกทั้งการด าเนินงานของผู้สูงอายุ พบว่า อาสาสมัคร 1 คน จะดูแลผู้สูงอายุ 5-7 คน
             และดูแลโดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ถือเป็นการให้การดูแลที่น้อยมาก เนื่องจากอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุเป็นผู้

             ที่มีบทบาทในการเข้าถึงข้อมูลของผู้เสียหายที่เป็นผู้สูงอายุที่อยู่อย่างโดดเดียวหรือติดเตียง ทั้งนี้แม้ว่า
             อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุจะไม่ได้มีหน้าที่ในการรายงานเหตุการณ์การกระท าความผิดทางอาญาต่อผู้สูงอายุ แต่
             อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุมีบทบาทหน้าที่ในการช่วยเหลือคุ้มครองผู้สูงอายุที่ขาดผู้ดูแล ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ถูก
             ทอดทิ้งให้อยู่ตามล าพัง ได้รับการดูแลไม่ถูกต้อง ถูกละเลยเพิกเฉยและยากจน โดยสามารถเป็นผู้ประสานงาน

             ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยเหลือผู้เสียหายที่เป็นผู้สูงอายุในคดีอาญาได้ และจากการศึกษายังพบอีกว่า
             อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุไม่มีในชุมชนเมืองเนื่องจากเป็นกลไกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือในระดับชุมชน
             ท าให้ผู้สูงอายุในเมืองไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง





                  290 จาก พ.ม.เดินหน้าโครงการน าร่อง “อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน”, โดย ไทยรัฐออนไลน์, 2560, สืบค้นจาก
             http://www.thairath.co.th/content/320883.
   339   340   341   342   343   344   345   346   347   348   349