Page 142 - รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการคุ้มครองการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ดิน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ระหว่างวันที่ 19-23 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
P. 142
่ ่
บทบาทองค์กรระหว่างประเทศทีเกียวกับสิทธิมนุษยชน (ต่อ)
่
คดีเกียวกับสิทธิในการได้รับและเผยแพร่ข่าวสารและความคิด (Right to Receive and Impart Information and Ideas)
่
1) คดี Steel and Morris v. the United Kingdom ลงวันที 15 กุมภาพันธ ์ 2005
่ ่
้
่
่
คดีนีผู้ฟ้ องคดีเป็ นองค์กรขนาดเล็กทีท าหน้าทีเกียวกับการปกป้องคุ้มครองสิงแวดล้อมและสังคม โดยช่วงปี 1986 ผู้ฟ้ องคดีได้ตีพิมพ์บทความจ านวน 6 แผ่น
่
่
้
่
่
หัวข้อ “What’s Wrong with McDonald’s?” ซึงมีเนือหาเกียวกับผลิตภัณฑ์ของแมคโดนัลทีมีผลกระทบต่อสิงแวดล้อม ท าให้แมคโดนัลฟ ้องร ้องผู้ฟ้ องคดีใน
่
่
ข้อหาหมินประมาท ส่งผลให้ผู้ฟ้ องคดีต้องชดใช ้เยียวยาความเสียหายให้แก่แมคโดนัล โดยทีผู้ฟ้ องคดีเห็นว่า เป็ นการละเมิดสิทธิในการได้รับและเผยแพร่ข่าวสาร
และความผิด
้
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ฟ้ องคดีได้มีการแสดงความเห็นโดยสุจริตใจ และในสังคมประชาธิปไตยก็ไม่ควรปิดกันการแสดงความเห็นดังกล่าว หากมิใช่
้
่
ความเห็นทีเป็ นการใส่ความหรือผิดกฎหมาย การแสดงความเห็นก็ไม่ได้จ ากัดไว้แต่เพียงนักข่าวหรือนักหนังสือพิมพ์เท่านัน บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ๆ ก็มีสิทธิ
่
ในการแสดงความคิดเห็นอย่างเป็ นธรรมได้ การกระท าดังกล่าวของอังกฤษถือว่าเป็ นการละเมิดมาตรา 10 แห่งอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เกียวกับสิทธิ
ในการได้รับและเผยแพร่ข่าวสารและความคิด
่
2) คดี Vides Aizsardzlbas Klubs v. Latvia ลงวันที 27 พฤษภาคม 2004
้
่
่
่
่
ผู้ฟ้ องคดีเป็ น NGO เพือปกป้ องคุ้มครองสิงแวดล้อมในปี 1997 ได้มีหนังสือไปยังหน่วยงานภาครัฐเพือปกป้ องคุ้มครองชายฝังทะเลของอ่าว Rica พร ้อมทัง
่
่
ตีพิมพ์เผยแพร่ข้อเรียกร ้องในหนังสือพิมพ์ โดยมีข้อความในตอนหนึงว่า นายกเทศมนตรีได้มีการอ านวยความสะดวกให้แก่ผู้ก่อสร ้างอาคารบริเวณชายฝังโดย
่
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายกเทศมนตรีจึงฟ้ องผู้ฟ้ องคดีข้อหาหมินประมาทต่อศาลภายใน
ศาลพิพากษาว่า ผู้ฟ้ องคดีไม่อาจพิสูจน์ได้ว่านายกเทศมนตรีรับเงินจากบริษัทก่อสร ้างดังกล่าว จึงให้ตีพิมพ์บทความขอโทษต่อนายกเทศมนตรี ผู้ฟ้ องคดี
่
้
้
เห็นว่ากรณีนีเป็ นการละเมิดต่อสิทธิในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต จึงยืนค าฟ้ องมายังศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีนีถือว่า
่
่
เป็ นการละเมิดมาตรา 10 แห่งอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เกียวกับสิทธิในการได้รับและเผยแพร่ข่าวสารและความคิด เนืองจากการแสดงความคิดเห็น
่
่
่
่
้
่
ของ NGO เป็ นการแสดงความเห็นเพือปกป้องคุ้มครองสิงแวดล้อมโดยสุจริต แต่จะต้องอยู่บนพืนฐานข้อมูลทีน่าเชือถือได้มิใช่การกล่าวอ้างลอย ๆ เพือให้
้
่
้
เกิดความเสียหายต่อผู้ทีถูกกล่าวหา ดังนัน องค์กรภาครัฐจะต้องเคารพสิทธิในการเผยแพร่ข่าวสารและความคิดโดยสุจริตใจบนพืนฐานข้อเท็จจริงด้วย