Page 49 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 49
เกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงร่างหลังจากการรับฟังความเห็น หลักเกณฑ์และวิธีการในการรับส่งเรื่องเพื่อให้มีแนวทาง
จากสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี การด�าเนินการร่วมกันระหว่างองค์กรอิสระตาม 1
ตามแนวทางที่ก�าหนดในมาตราดังกล่าว และพิจารณา รัฐธรรมนูญที่ชัดเจน โดยได้มอบหมายให้ส�านักงาน
ให้ความเห็นต่อร่างสุดท้ายก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา กสม. จัดท�าร่างแนวปฏิบัติดังกล่าวและให้ร่วมหารือ 2
ขณะนี้ มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาล กับหน่วยงานธุรการขององค์กรอิสระอีกสี่องค์กร
รัฐธรรมนูญ และผู้ด�ารงต�าแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้ง 3
ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการ โดยประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
๒
ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้น�าเสนอหลักการและแนวคิดของประกาศดังกล่าว
ได้ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๑ และมีผล ต่อที่ประชุมองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญห้าองค์กร 4
ใช้บังคับแล้ว เพื่อพิจารณาหลายครั้ง ต่อมา เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน
๒๕๖๓ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและ 5
นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอีกสี่องค์กร จึงได้
พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๒๑ และ พ.ร.ป. กสม. ประชุมร่วมกันพิจารณาและมีมติเห็นชอบให้ออกเป็น
๒๕๖๐ มาตรา ๖ รวมทั้งพระราชบัญญัติประกอบ ประกาศองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เรื่อง แนวปฏิบัติ
รัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอีกสี่องค์กร ในการรับส่งเรื่องระหว่างองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
ได้ก�าหนดหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ ลงวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ โดยให้ส�านักงาน กสม.
ไว้ให้องค์กรอิสระร่วมมือและช่วยเหลือกันเพื่อให้บรรลุ เป็นผู้ด�าเนินการในการจัดท�าประกาศฉบับสมบูรณ์
เป้าหมายในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละองค์กร ถ้าองค์กร ให้ประธานกรรมการขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
อิสระใดเห็นว่ามีผู้กระท�าการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งห้าองค์กรพิจารณาลงนามและรับผิดชอบขั้นตอน
แต่อยู่ในหน้าที่และอ�านาจขององค์กรอิสระอื่น ให้แจ้ง การส่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยประกาศดังกล่าว
องค์กรอิสระนั้นทราบเพื่อด�าเนินการตามหน้าที่และ ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๗/ตอนที่ ๖๑ ก/
อ�านาจต่อไป และถ้าองค์กรอิสระใดเห็นว่าการด�าเนิน หน้า ๒๙ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ และมีผลใช้บังคับ
การเรื่องใดอาจเข้าลักษณะเป็นการกระท�าซึ่งอยู่ในหน้าที่ ตั้งแต่วัน ๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นมา
๓
และอ�านาจขององค์กรอิสระอื่นด้วย ให้ปรึกษาหารือ
ร่วมกับองค์กรอิสระอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อก�าหนดแนวทาง อนึ่ง องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ในการด�าเนินงานร่วมกันเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของ พุทธศักราช ๒๕๖๐ ประกอบด้วย คณะกรรมการ
แต่ละองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ซ�้าซ้อนกัน การเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) บทนำ�
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
กสม. ได้เล็งเห็นถึงความส�าคัญของการร่วมมือกันของ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และ
องค์กรอิสระทั้งห้าองค์กรเพื่อให้การด�าเนินงานของแต่ละ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้จัดให้มี
องค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อเป็นการบูรณาการ ช่องทางการปรึกษาหารือกันอย่างสม�่าเสมอ ด้วยการ
การท�างานร่วมกันและลดการท�างานที่ซ�้าซ้อน กสม. จัดประชุมองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญทุกสองเดือน
จึงได้ริเริ่มให้มีการจัดท�าแนวปฏิบัติในการรับส่งเรื่อง โดยองค์กรอิสระแต่ละแห่งจะเวียนกันเป็นเจ้าภาพ
ระหว่างองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเพื่อก�าหนด
๒ มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ด�ารงต�าแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการ
ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑, (๒๕๖๑, ๓๐ มกราคม), ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๕ ก, หน้า ๑๓ - ๑๗.
๓ แนวปฏิบัติในการรับส่งเรื่องระหว่างองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ, (๒๔๖๓, ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓), ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม ๑๓๗ ตอนที่ ๖๑ ก, หน้า ๒๙ - ๓๑.
47