Page 24 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 24
รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 023
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
อันไม่สอดคล้องกับหน้าที่และอ�านาจของสถาบัน แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการด�าเนินการหรือ
1
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามหลักการปารีส แยกพิจารณาแก้ไขเฉพาะมาตรานี้ รวมถึงการพิจารณาแก้ไข
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะ
มาตรา 247 (4) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 โดยยกเลิก
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (4) บทบัญญัติในมาตรา 26 (4) และมาตรา 44 เพื่อให้สอดคล้องกัน
และมาตรา 44 บัญญัติให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีที่มี 5.1.2 ข้อจ�ากัดด้านกฎหมาย ในกรณีที่คณะกรรมการ
การรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย สิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นสมควรด�าเนินการไกล่เกลี่ย
โดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชน ประนีประนอมข้อพิพาทในด้านสิทธิมนุษยชน
ทราบเป็นการทั่วไป ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เดิมพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
ได้เคยแสดงความกังวลต่อคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ แห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้บัญญัติให้ระหว่างการตรวจสอบ
ในขณะนั้นว่า บทบัญญัติดังกล่าวอาจไม่สอดคล้องกับหลัก การละเมิดสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสามารถไกล่เกลี่ย
ความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของสถาบันสิทธิมนุษยชน ข้อพิพาทของคู่กรณีเพื่อให้ปัญหาตามค�าร้องเรียนสามารถยุติ
แห่งชาติตามหลักการปารีส ลงได้ ซึ่งเป็นการก�าหนดที่สอดคล้องกับหลักการสากลที่ได้
ต่อมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ด�าเนินการ ก�าหนดหลักการเพิ่มเติมว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เข้ารับการประเมินเพื่อทบทวนสถานะ (re-accreditation) ที่มีอ�านาจกึ่งตุลาการในการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียน
2
กับคณะอนุกรรมาธิการประเมินสถานะ (Sub-Committee ประการหนึ่ง คือ แสวงหาแนวทางยุติปัญหาอย่างฉันมิตรผ่าน
on Accreditation: SCA) ของกรอบความร่วมมือกับพันธมิตร กระบวนการไกล่เกลี่ย
ระดับโลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชน (Global Alliance แต่ปัจจุบันพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
of National Human Rights Institutions: GANHRI) ซึ่งได้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มิได้
รับข้อสังเกตจากเครือข่ายองค์กรทั้งในประเทศและระหว่าง บัญญัติหน้าที่และอ�านาจในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของ
ประเทศว่าหน้าที่และอ�านาจดังกล่าวไม่สอดคล้องกับ คณะกรรมการไว้ ท�าให้คณะกรรมการไม่สามารถไกล่เกลี่ย
หลักการปารีสที่อาจมีผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการปฏิบัติ ข้อพิพาทของคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ
หน้าที่ ทั้งที่อาจเกิดขึ้นจริงหรือที่เป็นการรับรู้ (actual or ได้พยายามผลักดันให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบ
perceived impact on independence) ซึ่งคณะกรรมการ รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีการประสานความร่วมมือในระดับ พ.ศ. 2560 เพื่อให้มีการบัญญัติหน้าที่และอ�านาจในการ
ต่าง ๆ ทั้งกับฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเพื่อยกเลิกบทบัญญัติ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของคณะกรรมการไว้ในพระราชบัญญัติ
ดังกล่าว ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
ข้อเสนอแนะ แห่งชาติ พ.ศ. 2560 ให้ชัดเจน โดยได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับ
รัฐสภา คณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง หน้าที่และอ�านาจในการไกล่เกลี่ยของคณะกรรมการต่อประธาน
ควรพิจารณาให้การสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ คณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยให้ยกเลิก เพื่อช่วยพิจารณาผลักดันให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบ
บทบัญญัติในมาตรา 247 (4) ในโอกาสแรก ทั้งนี้ อาจพิจารณา รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ให้การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ พ.ศ. 2560 ในประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้ ตามหนังสือคณะกรรมการ
1 ชื่ออย่างเป็นทางการคือ หลักการเกี่ยวกับสถานะของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Principles Relating to National Human Rights
Institutions)
2 เป็นคณะอนุกรรมการภายใต้กรอบความร่วมมือเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Global Alliance of
National Human Rights Institutions: GANHRI) ซึ่งได้พิจารณาปรับลดสถานะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศไทย
จากสถานะ A เป็น B เมื่อเดือนมกราคม 2559