Page 100 - รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (ฉบับสมบูรณ์)
P. 100
บทที่ 2
แนวคิดในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(2) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562
เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่เกี่ยวกับคณะกรรมการจัด
ที่ดินแห่งชาติ โดยเปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมการจัดที่ดิน และแก้ไของค์ประกอบรวมถึงอ านาจหน้าที่ เพื่อมิให้
เกิดการปฏิบัติหน้าที่ที่ซ้ าซ้อนกับคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ โดยเฉพาะหน้าที่ในการวางนโยบายการ
จัดที่ดินเพื่อให้ประชาชนมีที่ดินส าหรับอยู่อาศัยและหาเลี้ยงชีพตามควรแก่อัตภาพ รวมถึงควบคุมการจัดที่ดิน
ตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายอื่น
(3) พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562
เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการป้องกัน รักษา
ไม้มีค่าที่อยู่ในป่า แต่กลับเป็นอุปสรรคในการด าเนินการส่งเสริมการปลูกและใช้ประโยชน์จากไม้มีค่า เนื่องจาก
ผู้ปลูกไม่สามารถตัดมาใช้ประโยชน์ได้ด้วยข้อกฎหมาย จึงมีการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเปิดทางให้ประชาชนและ
เอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกไม้มีค่าเพื่อท าการค้า และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนมากขึ้น
สาระส าคัญในการแก้ไขเพิ่มเติมมีดังนี้
1) มีการก าหนดให้ไม้ทุกชนิดที่ปลูกในดินที่มีกรรมสิทธิ์ มีสิทธิครอบครอง หรือปลูกขึ้นในที่ที่ได้รับ
อนุญาต ไม่เป็นไม้หวงห้ามตามกฎหมาย เจ้าของสามารถน ามาใช้ประโยชน์ได้ ตามมาตรา 7 “ไม้ชนิดใดที่ขึ้น
ในป่าจะให้เป็นไม้หวงห้ามประเภทใด ให้ก าหนดโดยพระราชกฤษฎีกา ส าหรับไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินที่มี
กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม หรือไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินที่ได้รับ
อนุญาตให้ท าประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดโดยความเห็นชอบของ
คณะรัฐมนตรี ให้ถือว่าไม่เป็นไม้หวงห้าม”
อย่างไรก็ตาม ส าหรับไม้ที่ปลูกหรือขึ้นเองตามธรรมชาติในที่ดินซึ่งไม่มีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง
หรือไม่ได้รับอนุญาตนั้น ยังคงเป็นไม้หวงห้าม การท าไม้ยังคงต้องขออนุญาตตามเดิม
2) การท าไม้เพื่อการค้าหรือการส่งออก ต้องมีการรับรองไม้ตามมาตรา 18/1 “เพื่อประโยชน์ในการ
จ าแนกแหล่งที่มาของไม้ เจ้าของไม้ที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน
หรือเจ้าของไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ท าประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรี
ประกาศก าหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจะแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอหนังสือรับรองไม้ก็ได้”
และมาตรา 18/2 “ผู้ใดประสงค์จะขอหนังสือรับรองไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้ และถ่านไม้ เพื่อการค้าหรือการส่งออกไป
นอกราชอาณาจักร ให้ยื่นค าขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และเสียค่าใช้จ่ายในการออกหนังสือรับรองตามที่กรมป่าไม้
ก าหนด”
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย 2-81