Page 43 - คู่มือประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน และรายการตรวจสอบของภาคธุรกิจ
P. 43

กรอบการท�า HRDD      7








 ประเมินอย่างต่อเนื่อง   แยกเป็นกระบวนการต่างหาก หรือบูรณาการกับกระบวนการอื่น?


    ในเมื่อการประเมินความเสี่ยงจำาเป็นจะต้องทำาอย่างต่อเนื่อง  บริษัทของคุณจึงต้องประเมินผลกระทบ      บริษัทอาจออกแบบกระบวนการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนแยกออกมาต่างหาก  หรือจะบูรณาการ
 ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำาคัญๆ ระหว่างและภายในวัฏจักรโครงการ (Project Cycle) เช่นเวลาต่อไปนี้  ประเด็นสิทธิมนุษยชนเข้าไปในกระบวนการประเมินที่มีอยู่เดิมก็ได้ บริษัทของคุณอาจมีกระบวนการประเมินที่เป็น
            ทางการอยู่แล้ว ในการประเมินผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม หรือสุขภาพ (SIA / EIA / EHIA) ซึ่งกระบวนการเหล่านี้

            อาจเป็นจุดที่เหมาะสมในการบูรณาการประเด็นสิทธิมนุษยชน
 •  จุดเริ่มต้นการดำาเนินกิจกรรมใหม่ เช่น สร้างโรงแรม ขยายโรงแรม
 •  จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น คู่ค้าหลักรายใหม่

 •  การตัดสินใจทางธุรกิจหรือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำาคัญในการปฏิบัติการ เช่น เปลี่ยนพื้นที่ก่อสร้างโครงการ  •  ในแง่หนึ่ง ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนหลายข้อมีรากอยู่ในผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
 •  การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมของการดำาเนินธุรกิจ เช่น ความขัดแย้งทางสังคมเพิ่มสูงขึ้น    ทำาให้ยากที่จะแยกแยะอย่างชัดเจน
 ความไม่ไว้วางใจของชุมชนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ความล้มเหลวของภาครัฐ ฯลฯ   •  แต่ในอีกแง่หนึ่ง บริษัทควรตัดสินได้เมื่อใดที่ประเด็นสังคมหรือสิ่งแวดล้อมเริ่มมีนัยต่อสิทธิมนุษยชน
                    ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผลกระทบต่อแหล่งน้ำาสะสมไปเรื่อยๆ จนเริ่มส่งผลกีดกันสิทธิในการเข้าถึง
                    น้ำาดื่มที่สะอาด เป็นต้น
                  •  กระบวนการ SIA / EIA / EHIA ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทยนั้นเป็นกระบวนการแบบ

 มองไปข้างหน้า (Forward-looking)   “ครั้งเดียวจบ” ซึ่งบริษัทต้องทำาเป็นส่วนหนึ่งของการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือการพัฒนา
                    โครงการใหม่ ในขณะที่กระบวนการประเมินด้านสิทธิมนุษยชนจะต้องดำาเนินอย่างต่อเนื่อง
    จุดเน้นของกระบวนการประเมินความเสี่ยงจะต้องมองไปข้างหน้า นั่นคือ ระบุผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่มี  ตลอดชั่วอายุขัยของโครงการ

 แนวโน้มว่าจะเกิด ผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตและปัจจุบันเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงในอนาคตได้ดี (และบริษัทต้อง  •  ในบริษัทควรมีใครสักคนที่สามารถมองเห็น “ภาพรวม” ของความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัท
 เยียวยา) แต่ก็มิใช่ตัวชี้วัดเพียงแหล่งเดียวที่คุณใช้ได้ กระบวนการประเมินความเสี่ยงจะต้องทบทวนตัวชี้วัดอื่นๆ อีกมาก   ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่มองเห็นผ่านกระบวนการประเมินปัจจุบัน หรือไม่ใช่ก็ตาม
 ตลอด “ไม้บรรทัด” ที่เรียกว่าสิทธิมนุษยชน ตัวอย่างตัวชี้วัด ได้แก่




                                             ใช้ข้อมูลจากกระบวนการอื่น
 •  ประสบการณ์ของบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเดียวกันหรือคล้ายคลึงกัน
 •  ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง หรือความขัดแย้งในสังคม     บริษัทของคุณอาจเคยประเมินความเสี่ยงรูปแบบต่างๆ มาอย่างยาวนานในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการอื่นๆ
 •  ประเด็นที่องค์กรภาคประชาสังคม หรือองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) หยิบยก  ในวัฏจักรธุรกิจ กระบวนการเหล่านี้สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนได้ ยกตัวอย่างเช่น
 ว่าเป็นประเด็นน่ากังวล

 •  ธรรมเนียมและทัศนคติในสังคม
 •  พฤติกรรมและทัศนคติของพนักงานองค์กร  •  ขั้นตอนชุมชนสัมพันธ์
                  •  ขั้นตอนการจัดการด้านสุขภาพ

                  •  การประเมินความเสี่ยงทางการเมือง ความมั่นคง และความขัดแย้ง
                  •  กระบวนการสานเสวนา (กับภาคประชาสังคม)
                  •  กระบวนการตรวจสอบรอบด้านในแง่ความเสี่ยงทางกฎหมาย (Legal Due Diligence)
                  •  รายงานการสำารวจความคิดเห็นของพนักงาน
                  •  รายงานการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบภายนอก และข้อมูลจากกลไกการรับเรื่องร้องเรียน

                  •  กลไกตรวจสอบภายใน
                  •  รายงานการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) สำาหรับการพัฒนาโครงการใหม่








 42                                                                                                       43
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48