Page 181 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 181

๑๖๔




                   ซัดทอดของ นาย ภ. รับฟังไม่ได้ตามกฎหมายเนื่องจากมีการต่อรองผลประโยชน์กับพนักงานสอบสวน แต่
                   ศาลกลับน าเอาค าซัดทอดดังกล่าวไปลงโทษผู้ร้องต้องโทษประหาร

                                          (๒) พ.ต.ท. ณ. อดีตพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งจะขึ้นเบิก
                   ความประเด็นปมความขัดแย้งและผลจากการลงพื้นที่สอบปากค า ๒ ๔ รายชื่อผู้ค้ายาจังหวัด
                   สุราษฎร์ธานี หรือ บัญชีด า นอกจากนี้ ยังจะน าเสนอผลการสอบปากค า นักโทษ ภ. และ ด.ที่ยอมรับ
                   สารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่าซัดทอด นาย ช. เพราะต้องการกันบุตรสาวของ นาย ภ. ออกจากคดี
                                          (๓) นาย พ.  อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะขึ้นเบิกความใน

                   ประเด็นเป็นผู้จัดท าบัญชีด า ๒๔  รายชื่อผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่สุราษฎร์ธานี เมื่อปี ๒๕๔๖ ซึ่งบัญชีด า
                   ดังกล่าวเป็นการท าร่วมกัน ๔  ฝ่าย ประกอบด้วย จังหวัด (ฝ่ายปกครอง)  ต ารวจ  คณะกรรมการป้องกันและ
                   ปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. และทหาร ไม่พบรายชื่อของนาย ช. เป็นผู้เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด

                                          ด้านอัยการยื่นคัดค้านการรื้อฟื้นคดี โดยให้เหตุผลว่า หลักฐานของผู้ร้องเป็น
                   เพียงพยานแวดล้อม ไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่แต่อย่างใด ซึ่งในขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

                                         ๑.๑.๒ คดีควำมผิดทำงอำญำที่มีกำรร้องเรียนด ำเนินคดีต่อเจ้ำพนักงำน

                   สอบสวน
                                         ในช่วงระยะเวลาการด าเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปราม
                   ยาเสพติด (ระหว่างวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๖) ได้เกิดการฆาตกรรมประชากร
                   พลเรือนเป็นจ านวนมาก หน่วยงานของรัฐด้านการปราบปรามยาเสพติดได้ท าการรวบรวมคดีเกี่ยวกับ

                   การกระท าความผิดทางอาญาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จากการร้องเรียนของผู้เสียหายหรือผู้ได้รับ
                   ผลกระทบจากการด าเนินการตามนโยบายดังกล่าว ทั้งนี้ สามารถแบ่งคดีความผิดทางอาญาที่มีการ
                   ร้องเรียนด าเนินคดีต่อเจ้าพนักงานสอบสวนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด
                   ออกได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ (๑) คดีความผิดทางอาญาทั่วไป และ (๒) คดีความผิดทางอาญาอันเป็น

                   คดีพิเศษ
                                         (๑) คดีควำมผิดทำงอำญำทั่วไป
                                         ตามสรุปรายงานคดีความผิดทางอาญาที่หน่วยงานของรัฐด้านการปราบปราม

                   ยาเสพติด (ส านักงาน ป.ป.ส.) ได้รวบรวมไว้ (ซึ่งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ๑ ใช้เป็นข้อมูล
                                                ๓๙๘
                   พื้นฐานในการศึกษาและอ้างอิง)  คดีความผิดทางอาญาทั่วไปที่มีการร้องเรียนและด าเนินคดี
                   ต่อเจ้าพนักงานสอบสวนล้วนเป็น “คดีฆาตกรรม” ซึ่งอาจเป็นการกระท าโดยบุคคลธรรมดาคนอื่นหรือ
                   เป็นการกระท าของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (เจ้าหน้าที่ต ารวจ) คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
                   มีเป็นจ านวนรวมทั้งสิ้น ๒,๖๐๔ คดี และมีผู้เสียชีวิต ๒,๘๗๓ คน ทั้งนี้ แบ่งออกเป็นสองลักษณะคดี ได้แก่

                   ก) คดีฆาตกรรม และ ข) คดีวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งในคดีแต่ละลักษณะครอบคลุมทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับ
                   ยาเสพติด และที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และทั้งที่ทราบตัวผู้กระท าความผิดและที่ไม่ทราบตัวผู้กระท า
                   ความผิด ดังนี้

                                         ก) คดีฆำตกรรม

                          ๓๙๘
                              โปรดดู คณิต ณ นคร, วิสามัญฆาตกรรมคดียาเสพติดในประเทศไทย: ชอบด้วยกฎหมายหรือจงใจฆ่าทิ้ง?,
                   กรุงเทพ: ส านักพิมพ์วิญญูชน, หน้า๔๓, และรายงานการศึกษาวิเคราะห์ของคณะอนุกรรมการตรวจสอบผู้รับผิดชอบเชิง
                   นโยบาย, บทที่ ๓, หน้า ๒๑ - ๒๒.
   176   177   178   179   180   181   182   183   184   185   186