Page 177 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 177

๑๖๐




                   พฤติการณ์ในการข่มขู่พยาน ผู้มีส่วนได้เสียในคดีคือ นาง พ. ยื่นค าแถลงคัดค้านการขอประกันตัวเนื่องจาก
                   เมื่อศาลมีค าสั่งปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน และมีค าสั่งห้ามมิให้ผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

                   นั้น ปรากฏว่าจ าเลยยังคงมีพฤติกรรมเป็นการข่มขู่คุกคามพยานมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม
                   ๒๕๕๒ กลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ ๕ - ๖ คนเข้าไปบุกรุกท าลายทรัพย์สินที่บ้านนาง ส. พยานในคดี มีการ
                   ข่มขู่คุกคามนาง พ.ทางโทรศัพท์ และคาดว่าโทรศัพท์ของนาง พ.อาจถูกดักฟัง จนต้องมีการเปลี่ยนเบอร์
                   โทรศัพท์หลายครั้งด้วยกัน และยังมีกรณีการงัดตู้เอกสารที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อน าเอกสารส านวนใน
                   คดีนี้ไปถ่ายส าเนา นอกจากนี้ จ าเลยยังเป็นผู้มีอิทธิพลและเป็นเจ้าหน้าที่ต ารวจอีกด้วย หากว่ามีการปล่อย

                   ตัวชั่วคราวจ าเลยอาจยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ แต่ศาลมีค าสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ในวงเงิน
                   ประกัน ๕ แสนบาท
                                          วันที่ ๒๒ กันยายน  ๒๕๕๒ นาย ต. ในฐานะผู้บุพการีของนาย ก. ผู้ตาย ยื่น

                   ค าร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ
                                          วันที่ ๒๓   กันยายน ๒๕๕๒       อัยการได้ส่งฟ้องจ าเลยอีกหนึ่งคนคือ
                   พ.ต.ท. ส. โดยไม่มีตัวจ าเลยเพราะจ าเลยยังอยู่ในอ านาจของศาล ศาลรับฟ้องเป็นเลขคดีด าที่ อ.๓๔๖๖/
                   ๒๕๕๒ ศาลมีค าสั่งให้ปล่อยตัว พ.ต.ท. ส. ชั่วคราวเช่นเดียวกับจ าเลยอื่นในคดีนี้

                                          วันที่ ๑๙  ตุลาคม  ๒๕๕๒  วันนัดตรวจพยานหลักฐานศาลมีค าสั่งให้
                   นาย ต. เข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการและเพื่อความสะดวกในการพิจารณาคดีศาลสั่งให้รวมคดี
                   หมายเลขด าที่ ๓๔๖๖/๕๒  เข้ากับคดีหมายเลขด าที่ ๓๒๕๒/๕๒  ฝ่ายจ าเลยขอโอนคดีไปที่ศาลจังหวัด
                   กาฬสินธุ์ อ้างว่าเป็นศาลที่มูลคดีเกิดและพยานหลายปากมีภูมิล าเนาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พนักงานอัยการ

                   โจทก์คัดค้านเนื่องจากพยานหลายปากถูกข่มขู่คุกคามจนต้องขอคุ้มครองพยาน ศาลพิจารณาเเล้วไม่
                   อนุญาตให้โอนคดี แต่อาจส่งบางประเด็นไปสืบที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังสืบจ าเลยหมดทุกปากแล้ว
                                          วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๓ สืบพยานนัดแรก
                                          วันที่ ๒๒ มีนาคม  ๒๕๕๓ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ระงับการให้ความคุ้มครอง

                   พยานแก่นาง พ. ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๖  และ ระเบียบกรม
                   สอบสวนพิเศษ ว่าด้วยการให้ความคุ้มครองแก่พยานในคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗  ข้อ ๑๗  “การคุ้มครอง
                   พยานอาจสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้... (๕)   พฤติการณ์หรือสภาพของผู้รับ

                   การคุ้มครองปลี่ยนแปลงไป และไม่มีความจ าเป็นต้องให้ความคุ้มครอง หรือไม่อาจให้ความคุ้มครองได้อีก
                   ต่อไป” เช่น ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ต้องหา หรือจ าเลยในคดีอาญาซึ่งพยานต้องไปให้ถ้อยค าถึงแก่ความตาย หรือ
                   มีการสืบพยานในชั้นศาลเสร็จสิ้นแล้ว เป็นต้น ทั้งนี้ เนื่องจากการที่นาง พ. ได้ขึ้นให้การเป็นพยานในศาล
                   ชั้นต้นเสร็จสิ้นแล้ว ในที่สุดกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีค าสั่งให้คุ้มครองนาง พ. อีกครั้งหนึ่ง


                                         (๓) ผู้เสียหำยหรือผู้ได้รับผลกระทบทำงภำคกลำง
                                         เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการด าเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการประกาศ
                   สงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือผู้ได้รับผลกระทบ

                   ในพื้นที่ต่างๆ ทางภาคกลาง ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ ในภาคกลางและมีผู้เสียหายหรือผู้ได้รับผลกระทบ
                   จากการด าเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลประกอบด้วยผู้เสียหายที่เป็นชายและหญิง คนชรา หรือแม้แต่
                   ผู้เยาว์
   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182