Page 146 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 146

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘



                                 มาตรา ๓๖ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย

                                 การตรวจ การกัก หรือการเปิดเผยสิ่งสื่อสารที่บุคคลมีติดต่อถึงกัน รวมทั้งการกระท�าด้วยประการอื่นใด
                   เพื่อให้ล่วงรู้ถึงข้อความในสิ่งสื่อสารทั้งหลายที่บุคคลมีติดต่อถึงกัน จะกระท�ามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอ�านาจตามบทบัญญัติ
                   แห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
                                 มาตรา ๓๗  บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยมในทางศาสนา
                   และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์
                   ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

                                 ในการใช้เสรีภาพตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองมิให้รัฐกระท�าการใด ๆ อันเป็นการรอน
                   สิทธิหรือเสียประโยชน์อันควรมีควรได้ เพราะเหตุที่ถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมในทางศาสนาหรือปฏิบัติตาม
                   ศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือ แตกต่างจากบุคคลอื่น

                                 มาตรา ๓๙ บุคคลไม่ต้องรับโทษอาญา เว้นแต่ได้กระท�าการอันกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระท�านั้นบัญญัติ
                   เป็นความผิดและก�าหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้นจะหนักกว่าโทษที่ก�าหนดไว้ในกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระท�า
                   ความผิดมิได้

                                 ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจ�าเลยไม่มีความผิด
                                 ก่อนมีค�าพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระท�าความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระท�า  บทที่ ๕ สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเปราะบาง
                   ความผิดมิได้

                                 มาตรา ๔๒  การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์จะกระท�ามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอ�านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
                   เฉพาะกิจการของรัฐเพื่อการอันเป็นสาธารณูปโภค การอันจ�าเป็นในการป้องกันประเทศ การได้มาซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ
                   การผังเมือง การส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การพัฒนาการเกษตรหรือการอุตสาหกรรม การปฏิรูปที่ดิน การอนุรักษ์
                   โบราณสถานและแหล่งทางประวัติศาสตร์ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น และต้องชดใช้ค่าทดแทนที่เป็นธรรมภายในเวลา
                   อันควรแก่เจ้าของตลอดจนผู้ทรงสิทธิบรรดาที่ได้รับความเสียหายจากการเวนคืนนั้น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

                                 การก�าหนดค่าทดแทนตามวรรคหนึ่งต้องก�าหนดให้อย่างเป็นธรรมโดยค�านึงถึงราคาที่ซื้อขายกันตามปกติ
                   ในท้องตลาด การได้มา สภาพและที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ ความเสียหายของผู้ถูกเวนคืนและประโยชน์ที่รัฐและผู้ถูกเวนคืนได้
                   รับจากการใช้สอยอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืน

                                 กฎหมายเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ต้องระบุวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืนและก�าหนดระยะเวลาการเข้าใช้
                   อสังหาริมทรัพย์ไว้ให้ชัดแจ้ง ถ้ามิได้ใช้เพื่อการนั้นภายในระยะเวลาที่ก�าหนดดังกล่าวต้องคืนให้เจ้าของเดิมหรือทายาท
                                 การคืนอสังหาริมทรัพย์ให้เจ้าของเดิมหรือทายาทตามวรรคสาม และการเรียกคืนค่าทดแทนที่ชดใช้ไป
                   ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ

                                 มาตรา ๔๔ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับหลักประกันความปลอดภัยและสวัสดิภาพในการท�างาน รวมทั้งหลัก
                   ประกันในการด�ารงชีพทั้งในระหว่างการท�างานและเมื่อพ้นภาวะการท�างาน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

                                 มาตรา ๔๗ คลื่นความถี่ที่ใช้ในการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคมเป็นทรัพยากร
                   สื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ
                                 ให้มีองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระองค์กรหนึ่งท�าหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ตามวรรคหนึ่ง และก�ากับการประกอบ
                   กิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

                                 การด�าเนินการตามวรรคสองต้องค�านึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
                   ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรม ความมั่นคงของรัฐ ประโยชน์สาธารณะอื่น และการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม รวมทั้ง
                   ต้องจัดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการด�าเนินการสื่อมวลชนสาธารณะ





                                                                                                          116
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151