Page 209 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 209

ท�าส�านวนคดีร่วมกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่เริ่มแรก  เพื่อเป็นการตรวจสอบถ่วงดุล  (check  and  balance)  การปฏิบัติหน้าที่ของ
               พนักงานสอบสวน อันจะท�าให้การสอบสวนและท�าส�านวนคดีของพนักงานสอบสวนเป็นไปอย่างเป็นอิสระอย่างแท้จริง มีความเป็น

               ภาวะวิสัย  (objectivity)  และปราศจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองหรือบุคคลใดๆ  โดยเฉพาะในคดีเกี่ยวกับกระท�าอันเป็นการ
               ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง
                                  ผลลัพธ์

                                  ผู้เสียหายหรือครอบครัวของผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้นทั้งในแง่ของการใช้สิทธิ
               ส่วนบุคคลในการด�าเนินการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับการกระท�าละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยตนเอง (ภายหลังจากที่พนักงานอัยการและ
               พนักงานสอบสวนสั่งงดการสอบสวนคดี)  และในแง่ของกระบวนการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนซึ่งมีความเป็นภาวะวิสัย

               มากยิ่งขึ้น และปราศจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองหรือบุคคลใดๆ
                              (๓) ข้อเสนอแนะเพื่อการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย

               แก่จ�าเลยในคดีอาญา
                                  นอกจากการแก้ไขปรับปรุงประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของประเทศไทย

               ดังกล่าวข้างต้นแล้ว การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายที่จะได้รับค่าทดแทนตามกฎหมายว่าด้วย
               ค่าตอบแทนผู้เสียหาย  ค่าทดแทน  และค่าใช้จ่ายแก่จ�าเลยในคดีอาญา  ก็มีความจ�าเป็นเช่นกัน  เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายหรือ
               ทายาทของผู้เสียหายในคดีความผิดอาญาที่เกิดจากนโยบายของรัฐดังเช่นกรณีนโยบายในการท�าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของ

               รัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ในอันที่จะได้รับการเยียวยาความเสียหายขั้นพื้นฐานอย่างเป็นธรรม
                                  ข้อเสนอแนะ
                                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะองค์กรระดับชาติในด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จึงควร

               ผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จ�าเลยในคดีอาญา เพื่อให้ผู้เสียหายในคดี
               อาญาที่เกิดจากนโยบายของรัฐ ได้รับการเยียวยาความเสียหายได้ตามเงื่อนไขที่เป็นธรรมและเหมาะสมยิ่งขึ้น
                                  วิธีการ

                                  การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติมาตรา  ๒๒  แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน  และ
               ค่าใช้จ่ายแก่จ�าเลย ในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่จ�ากัดสิทธิของผู้เสียหายหรือทายาทของผู้เสียหายที่จะขอรับค่าทดแทนความเสียหาย

               ในการยื่นค�าขอรับเงินดังกล่าวภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รู้ถึงการกระท�าความผิด วันที่ศาลมีค�าสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง วันที่มีค�า
               พิพากษาอันถึงที่สุดในคดีนั้นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจ�าเลยมิได้เป็นผู้กระท�าความผิด หรือการกระท�าของจ�าเลยไม่เป็นความผิด
               แล้วแต่กรณี  โดยก�าหนดมิให้น�าบทบัญญัติดังกล่าวมาใช้บังคับกับคดีอาญาที่เกิดจากนโยบายของรัฐ  (public  policy)  ซึ่งผู้เสียหาย

               หรือทายาทของผู้เสียหายมีสิทธิที่จะขอรับค่าทดแทนตามกฎหมายนี้ได้ตลอดเวลาและไม่มีข้อจ�ากัดเรื่องเงื่อนเวลาในการใช้สิทธิขอรับ
               เงินดังกล่าว

                                   ผลลัพธ์
                                   ผู้เสียหายหรือครอบครัวของผู้เสียหายย่อมจะได้รับการเยียวยาขั้นพื้นฐานจากรัฐเพื่อความเสียหาย
               อันเนื่องจากนโยบายของรัฐ โดยไม่มีเงื่อนเวลามาจ�ากัดสิทธิขอรับเงินเยียวยาความเสียหายขั้นพื้นฐานดังกล่าวแต่อย่างใด



















               188
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   204   205   206   207   208   209   210   211   212   213   214