Page 153 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 153
396
กรณีศึกษา: การจับกุมนาย ช. ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ในวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๖ เวลา ๒๒.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ต�ารวจกองบัญชาการต�ารวจปราบปราม
ยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ต�ารวจ สน. ปทุมวัน ท�าการจับกุมผู้ต้องหา ๔ คน คือ ๑) นาย ภ. อายุ ๕๐ ปี ๒)
นาย ด. อายุ ๔๙ ปี ๓) นาง ว. อายุ ๓๙ ปี ๔) น.ส. ป. อายุ ๒๓ ปี โดยกล่าวหาว่าร่วมกันมีเฮโรอีนในความครอบครองเพื่อจ�าหน่าย
ยึดได้ของกลาง คือ เฮโรอีนอัดแท่ง ๑๐๐ แท่ง น�้าหนักรวม ๔๐ กก. ในรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เหตุเกิดที่ถนนวงศ์สว่าง แขวงบางซื่อ
เขตบางซื่อ กทม.
ต่อมา เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๖ เจ้าหน้าที่ได้น�าหมายศาลอาญาเข้าจับกุมนาย ช. อายุ ๕๑ ปี
ที่ร้านทอง น. สาขา ๑ ต�าบลพนม อ�าเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน ให้มีการล�าเลียงเฮโรอีน โดยกล่าวหาว่า
ร่วมกันมีเฮโรอีนในความครอบครองเพื่อจ�าหน่ายและเจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจยึด/อายัดเงินสด ทองรูปพรรณ และทรัพย์สินต่าง ๆ ของ
นาย ช.ที่ร้านทอง น. สาขา ๑ สาขา ๒ สาขา ๓ และร้านทอง พ. ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อ�าเภอพนม อ�าเภอบ้านตาขุน และ อ�าเภอคีรีรัตน์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นกิจการบังหน้าของผู้ต้องหา รวม ๗๕ รายการ มูลค่าทรัพย์สินไม่ต�่ากว่า ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งศาลอาญามีค�า
พิพากษาเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๗ ให้ประหารชีวิตนาย ช. จ�าเลยที่ ๔ ต่อมา ทั้งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาก็มีค�าพิพากษายืนตาม
ศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิต โดยศาลฎีกามีค�าพิพากษาถึงที่สุด เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๓ แต่ต่อมา ได้มีพระราชทานอภัยโทษให้
จ�าเลยที่ ๔ เหลือโทษจ�าคุกตลอดชีวิต
หลังจากที่นาย ช. ได้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจ�าเขาบิน จังหวัดราชบุรีตามค�าพิพากษาของศาล รวมเป็นเวลา
กว่า ๑๐ ปี จนเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ นาง น. ภรรยาของนาย ช. ได้มีหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีกรมสอบสวน
คดีพิเศษ (DSI) กรณีนาย ช. ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการด�าเนินคดีอาญาคดีค้ายาเสพติด (เฮโรอีน) และเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษได้
ตรวจสอบพยานหลักฐานเดิมแล้วพบพยานหลักฐานใหม่ที่ส�าคัญซึ่งพอสรุปได้ว่า กรณีของนาย ช. และทรัพย์สินที่ได้มานั้น ไม่มีหลักฐาน
บ่งชี้ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดังนั้น นาย ช. จึงขอให้ศาลรื้อฟื้นพิจารณาคดีขึ้นใหม่ เนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานใหม่ ตามพ
ระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. ๒๕๒๖ เนื่องจากมีพยานหลักฐานใหม่ สรุปได้ดังนี้
๑. มีค�าให้การของนาย พ. อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ให้การต่อพนักงานสอบสวน
ดีเอสไอ เกี่ยวกับเอกสารที่ระบุผู้มีรายชื่อในบัญชียาเสพติดที่จัดท�าขึ้นระหว่างฝ่ายปกครองและต�ารวจ รวมทั้งฝ่ายส�านักงานป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และทหารด้วย ตามนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเฉียบขาดจริงจัง ซึ่งพบเพียงชื่อนาย ภ.
เพียงผู้เดียว ที่มีชื่อในบัญชีผู้ค้าผู้เสพของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
๒. ค�าให้การของนาย ภ. ที่ให้การต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอว่า นาย ภ. ถูกจับกุมพร้อมกับพวก
รวม ๔ คนข้อหาร่วมกันมีเฮโรอีน พร้อมของกลางจ�านวน ๑๐๐ แท่งและของกลางอื่นอีกหลายรายการ โดยซัดทอดว่านาย ช. ว่าจ้าง
๒๐๐,๐๐๐ บาท ให้ไปขนเฮโรอีน เนื่องจากมีการต่อรองกับเจ้าหน้าที่ผู้จับกุม เพื่อช่วยเหลือ น.ส. ป. บุตรสาวของนาย ภ. ไม่ให้
ถูกจับกุมด้วย และเพราะรู้สึกโกรธแค้น นาย ช. ที่ให้เจ้าหน้าที่ต�ารวจยืมเงินไปใช้ในการล่อซื้อยาเสพติดกระทั่งเป็นเหตุให้นาย จ.
ซึ่งเป็นลูกน้องของนาย ภ. ถูกจับกุมแล้วภายหลังมีการซัดทอดจน นาย ภ. ถูกด�าเนินคดีด้วย
๓. ค�าให้การของ ดาบต�ารวจ น. เจ้าหน้าที่ต�ารวจสายสืบ สถานีต�ารวจภูธรพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่ได้ยืมเงินจากนาย ช. ไปล่อซื้อยาจากนาย จ.
๔. ค�าให้การนาย ด. ที่ว่า ภายหลังมีการจับกุมด�าเนินแล้วทราบจากนาย ภ. ว่าไม่รู้จักกับนาย ช.
และนาย ช. ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ส่วนเฮโรอีน ๑๐๐ แท่งเป็นของนาย ภ. เพียงผู้เดียว และที่นาย ด. ไม่ได้ยืนยันแต่แรกเพราะเห็นว่า
396
ข้อมูลจากส�านักข่าวไทย http://www.mcot.net/site/content?id=52283af615๐ba๐b506000113#.U8q_BMaKAc8
132
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖