Page 196 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 196

(๖.๑)   การปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่มีระยะยาวแทนนโยบาย
                                        แบบปีต่อปี

                                  (๖.๒)  การแก้ไขกฎหมายการจดทะเบียนแรงงานสามารถตรวจสอบได้ และ
                                        แรงงานสามารถด าเนินการได้ด้วยตนเองเพื่อตัดช่องทางการหลอกลวงของ
                                        นายหน้า
                                  (๖.๓)  การให้ความรู้กับแรงงานเกี่ยวกับสิทธิของแรงงาน  และกฎหมายการจด

                                        ทะเบียนเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายการสร้างเครือข่ายการช่วยเหลือ
                                        กันระหว่างกลุ่มแรงงาน/ผู้อพยพในการแก้ไขปัญหา
                                 (๖.๔)   การจัดอบรมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐได้เรียนรู้ภาษาของแรงงานที่สามารถ
                                        สื่อสารกับแรงงานได้ โดยตรง

                                 (๖.๕)   การมีศูนย์เตรียมความพร้อมของแรงงานที่จะเข้ามาท างานใหม่ และมีการ
                                        ให้ความรู้เบื้องต้นส าหรับการท างานในประเทศไทย และในช่วงการจด
                                        ทะเบียนควรมีการประชาสัมพันธ์เป็นภาษาของแรงงาน
                                 (๖.๖)  การเสริมสร้างองค์ความรู้แก่กลุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ หรือ

                                        กลุ่มเหยื่อค้ามนุษย์ เช่น การจัดโครงการอบรมให้ความรู้แก่แรงงานเกี่ยวกับ
                                        สิทธิของแรงงาน โดยต้องให้ความส าคัญกับทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้าม
                                        ชาติ

                                  (๗)  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และ
                   ส านักงานต ารวจแห่งชาติ ควรให้ความส าคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการท างานกับ
                   องค์กรภาคประชาสังคม ในพื้นที่ เนื่องจากกลุ่มองค์กรเหล่านี้มีศักยภาพในการท างานเชิงรุกถึงปัญหา
                   ได้ค่อนข้างดี เนื่องจากมีเปูาหมายในการท างานที่ชัดเจน เฉพาะเรื่อง ไม่ต้องแบกรับภาระหน้าที่
                   หลากหลายเช่นหน่วยงานราชการ ฉะนั้นการสร้างภาคีความร่วมมือในการท างานร่วมกับองค์กร

                   พัฒนาเอกชน จึงสามารถเติมเต็มกระบวนการท างานของหน่วยงานภาครัฐได้เป็นอย่างดี
                                 (๘)   ส านักงานต ารวจแห่งชาติต้องเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับที่
                   เกี่ยวข้องกับการปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์  ได้แก่

                                 (๘.๑)   การเอาผิดนายหน้าและนายจ้างที่ละเลยการจดทะเบียนแรงงานที่ถูกต้อง
                                        หรือที่กระท าการละเมิดสิทธิแรงงาน
                                 (๘.๒)   การจับกุมผู้ตั้งตนเป็นนายหน้าจัดหางานผิดกฎหมาย การท าเอกสารปลอม
                                        ให้กับแรงงาน ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ

                                 (๘.๓)   การยึดใบอนุญาตโรงงานที่ผิดกฎหมาย
                                 (๙) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรก าหนดเรื่องการค้ามนุษย์ให้เป็น
                   ประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่มีความส าคัญในระดับต้นๆ  เพราะการค้ามนุษย์ถือเป็นการละเมิดสิทธิ
                   มนุษยชนอย่างรุนแรง โดยควรด าเนินการ ดังนี้

                                 (๙.๑)   ด าเนินการตรวจสอบรัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบ
                                        ไม่จ าเป็นต้องรอให้มีหน่วยงานหรือบุคคลมาร้องเรียน  คณะกรรมการสิทธิ
                                        มนุษยชนแห่งชาติสามารถหยิบยกกรณีที่เห็นว่ามีการค้ามนุษย์หรือการ
                                        ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง มาท าการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระโดย





                                                          ๑๗๖
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201