Page 48 - โครงการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เรื่อง "การศึกษาและตาบอดสี"
P. 48
๒
กรณีที่พบว่ำ เด็กนักเรียนมีอำกำรตำบอดสี ครูจะเก็บไว้เป็นความลับให้รู้แต่ผู้ปกครองและ
ตัวเด็กนักเรียน เพรำะถือเป็นควำมลับส่วนตัว และจะแนะแนวทำงกำรศึกษำที่เหมำะสมให้
แบบบันทึกกำรทดสอบกำรมองเห็นสี เสนอให้รำชวิทยำลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยเป็น
ผู้จัดท ำให้
ค ำถำม
ปัญหำในกำรเข้ำรับกำรศึกษำต่อในระดับอำชีวศึกษำ และ อุดมศึกษำ มีอะไรบ้ำง
ตอบ
หลักเกณฑ์ในกำรรับเด็กนักเรียนที่มีอำกำรตำบอดสี ในสำขำและคณะเดียวกัน แต่ต่ำงวิทยำลัย
ต่ำงมหำวิทยำลัย ไม่เหมือนกัน เช่น ระบุ
ตำบอดสี
ตำบอดสีอย่ำงรุนแรง
ตำบอดสีอย่ำงรุนแรงที่ได้รับกำรตรวจวินิจฉัยแล้ว
ตำบอดสีที่คณะแพทย์ที่ตรวจและลงควำมเห็นแล้วถือว่ำสิ้นสุด
แต่ไม่มีกำรระบุว่ำใช้เกณฑ์กำรตรวจอย่ำงไร, ใช้ตรวจวิธีไหน
ค ำถำม
ปัญหำข้ำงต้นทำงกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ จะแก้อย่ำงไร
ตอบ
คณะอนุกรรมกำรค้ำนสิทธิเด็กและกำรศึกษำจะมีข้อเสนอไปยังสถำบันกำรศึกษำทุกแห่งที่ไม่รับ
นักศึกษำที่มีอำกำรตำบอดสีในบำงสำขำวิชำ
ให้มีกำรประชุมพิจำรณำหำหลักเกณฑ์ในกำรรับหรือไม่รับเด็กนักเรียนที่มีอำกำรตำบอดสีที่เป็น
มำตรฐำนเดียวกัน มีกำรตรวจหำอำกำรตำบอดสีที่ใช้วิธีตรวจที่เหมือนกัน ไม่ใช้ดุลพินิจ
และมีกำรประกำศอย่ำงชัดเจนและเปิดเผย เพื่อไม่ให้เกิดกำรเลือกปฏิบัติต่อเด็กนักเรียน
อย่ำงไรก็ตำมกำรแก้ไขปัญหำเหล่ำนี้ต้องใช้เวลำ, งบประมำณ, ทรัพยำกรบุคคล อีกเป็นจ ำนวนมำก
ทำงกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติจะพยำยำมผลักดันต่อไป และขอควำมร่วมมือจำกภำคประชำรัฐ