Page 49 - ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี : จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
P. 49
๔. บุคคลใดที่ถูกลิดรอนเสรีภาพโดยการจับกุมหรือการควบคุม มีสิทธิน าคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อให้ตัดสินโดยไม่ชักช้า
ถึงความชอบด้วยกฎหมายของการควบคุมผู้นั้น และหากการควบคุมไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ให้ศาลมีค าสั่งปล่อยตัวไป
๕. บุคคลใดที่ถูกจับกุมหรือถูกควบคุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทน
ข้อ ๑๐
๑. บุคคลทั้งปวงที่ถูกลิดรอนเสรีภาพต้องได้รับการปฏิบัติด้วยความมีมนุษยธรรม และความเคารพในศักดิ์ศรีแต่
ก าเนิดแห่งความเป็นมนุษย์
๒. (ก) ยกเว้นในสภาพการณ์พิเศษ ผู้ต้องหาต้องได้รับการจ าแนกออกจากผู้ต้องโทษ และต้องได้รับการปฏิบัติที่
แตกต่างออกไปให้เหมาะสมกับสถานะที่ไม่ใช่ผู้ต้องโทษ
(ข) ต้องแยกผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชนออกจากผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ และให้น าตัวขึ้นพิจารณาพิพากษาคดี
ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะท าได้
๓. ระบบราชทัณฑ์ต้องประกอบด้วยการปฏิบัติต่อนักโทษ โดยมีจุดมุ่งหมายส าคัญที่จะให้นักโทษกลับตัวและ
ฟื้นฟูทางสังคม ผู้กระท าผิดที่เป็นเด็กและเยาวชนต้องได้รับการจ าแนกออกจากผู้กระท าผิดที่เป็นผู้ใหญ่ และต้องได้รับการ
ปฏิบัติให้เหมาะสมกับวัยและสถานะทางกฎหมาย
ข้อ ๑๑
บุคคลจะถูกจ าคุกเพียงเพราะเหตุว่าไม่สามารถปฏิบัติการช าระหนี้ตามสัญญามิได้
ข้อ ๑๒
๑. บุคคลทุกคนที่อยู่ในดินแดนของรัฐใดโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมมีสิทธิในเสรีภาพในการโยกย้าย และเสรีภาพ
ในการเลือกถิ่นที่อยู่ภายในดินแดนของรัฐนั้น
๒. บุคคลทุกคนย่อมมีเสรีที่จะออกจากประเทศใด ๆ รวมทั้งประเทศของตนได้
๓. สิทธิดังกล่าวข้างต้นไม่อยู่ภายใต้ข้อจ ากัดใด ๆ เว้นแต่เป็นข้อจ ากัดตามกฎหมาย และที่จ าเป็นเพื่อรักษาความ
มั่นคงของชาติ ความสงบเรียบร้อย การสาธารณสุข หรือศีลธรรมของประชาชนหรือเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น
และข้อจ ากัดนั้นสอดคล้องกับสิทธิอื่น ๆ ที่รับรองไว้ในกติกานี้
๔. บุคคลจะถูกลิดรอนสิทธิในการเดินทางเข้าประเทศของตนโดยอ าเภอใจมิได้
ข้อ ๑๓
คนต่างด้าวผู้อยู่ในดินแดนของรัฐภาคีแห่งกติกานี้โดยชอบด้วยกฎหมายอาจถูกไล่ออกจากรัฐนั้นได้โดยค าวินิจฉัย
อันได้มาตามกฎหมายเท่านั้น และผู้นั้นย่อมได้รับอนุญาตให้ชี้แจงแสดงเหตุผลคัดค้านการขับไล่ออกจากรัฐนั้น และขอให้มี
การทบทวนเรื่องของตนโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอ านาจ หรือบุคคล หรือคณะบุคคล ที่แต่งตั้งขึ้นเฉพาะการนี้โดยเจ้าหน้าที่ผู้มี
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีเมื่อ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๓๙ มีผลใช้บังคับ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๐ ๕