Page 48 - ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี : จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
P. 48

ข้อ ๗


                       บุคคลจะถูกทรมาน หรือได้รับการปฏิบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือต ่าช้ามิได้ โดยเฉพาะอย่าง
               ยิ่ง บุคคลจะถูกใช้ในการทดลองทางการแพทย์ หรือทางวิทยาศาสตร์โดยปราศจากความยินยอมอย่างเสรีของบุคคลนั้นมิได้


                                                          ข้อ ๘


                       ๑. บุคคลจะถูกเอาตัวลงเป็นทาสมิได้ การเอาคนลงเป็นทาสและการค้าทาสทุกรูปแบบจะต้องถูกห้าม


                       ๒. บุคคลจะถูกบังคับให้ตกอยู่ในภาวะเยี่ยงทาสมิได้


                       ๓. (ก) บุคคลจะถูกเกณฑ์แรงงานหรือบังคับใช้แรงงานมิได้


                            (ข)  ในประเทศที่การลงโทษจ าคุกควบกับการท างานหนักเป็นโทษทางอาญาอย่างหนึ่งความในวรรค ๓   (ก)
                       มิได้ห้ามการท างานหนักตามค าพิพากษาที่ให้ลงโทษเช่นว่านั้นของศาลที่มีอ านาจ


                            (ค) เพื่อวัตถุประสงค์ของวรรคนี้ ค าว่า “แรงงานที่ถูกเกณฑ์หรือถูกบังคับ” ไม่หมายรวมถึง


                              (๑) งานหรือบริการใด ซึ่งมิได้อ้างถึงในอนุวรรค (ข) ซึ่งโดยปกติบุคคลผู้ถูกควบคุมโดยผลของค าสั่งที่
                              ชอบด้วยกฎหมายของศาล   หรือบุคคลผู้อยู่ระหว่างการปล่อยตัวจากการควบคุมโดยมีเงื่อนไปต้อง

                              กระท าตามค าสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
                              (๒)  การปฏิบัติงานใดในลักษณะทางทหาร   และการรับใช้ชาติที่กฎหมายก าหนดให้ผู้คัดค้านการเป็น
                              ทหารเพราะขัดกับมโนธรรมต้องปฏิบัติ      ในประเทศที่ยอมรับการคัดค้านเช่นว่านั้น

                              (๓) การเกณฑ์ให้ปฏิบัติงานใดในกรณีฉุกเฉินหรือกรณีภัยพิบัติที่คุกคามความอยู่รอดหรือความผาสุก
                              ของชุมชน
                              (๔) งานหรือบริการใดอันเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ปกติของพลเมือง


                                                           ข้อ ๙


                       ๑. บุคคลทุกคนมีสิทธิในเสรีภาพและความปลอดภัยของร่างกาย บุคคลจะถูกจับกุมหรือควบคุมโดยอ าเภอใจมิได้

               บุคคลจะถูกลิดรอนเสรีภาพของตนมิได้ ยกเว้นโดยเหตุและโดยเป็นไปตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย

                       ๒. ในขณะจับกุม บุคคลใดที่ถูกจับกุมจะต้องได้รับแจ้งถึงเหตุผลในการจับกุม และจะต้องได้รับแจ้งถึงข้อหาที่ถูก

               จับกุมโดยพลัน


                       ๓. บุคคลใดที่ถูกจับกุมหรือควบคุมตัวในข้อหาทางอาญา จะต้องถูกน าตัวโดยพลันไปยังศาลหรือเจ้าหน้าที่อื่นที่มี
               อ านาจตามกฎหมายที่จะจะใช้อ านาจทางตุลาการ และจะต้องมีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีภายในเวลาอันสมควร หรือได้รับ
               การปล่อยตัวไป มิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลที่รอการพิจารณาคดี แต่ในการปล่อยตัวอาจก าหนดให้มีการ

               ประกันว่าจะมาปรากฏตัวในการพิจารณาคดี ในขั้นตอนอื่นของกระบวนพิจารณา และจะมาปรากฏตัวเพื่อการบังคับตามค า
               พิพากษา เมื่อถึงวาระนั้น






               กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง  ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีเมื่อ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๓๙ มีผลใช้บังคับ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๐   ๔
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53