Page 12 - สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำรุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
P. 12
๓.๒ ประกาศฉบับดังกล่าวสอดคล้องกับมาตรา ๔๙ และมาตรา ๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ หรือไม่
๓.๓ การบังคับใช้ประกาศฉบับดังกล่าวเป็นการกระทำาที่สอดคล้องกับมาตรา ๒๙ ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ ๒๖ และ
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ข้อ ๑๓ เกี่ยวกับสิทธิในการศึกษา
ที่รัฐต้องจัดให้ หรือไม่
๓. ก�รดำ�เนินก�รตรวจสอบ
คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
ได้ดำาเนินการพิจารณาตรวจสอบ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗ พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และระเบียบ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิด
สิทธิมนุษยชน พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้รับฟังข้อเท็จจริงทั้งเอกสารและด้วยวาจาจาก
ผู้ร้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ ดังนี้
๓.๑ สำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีหนังสือ ที่ ศธ ๐๔๐๐๒/๔๖๘ ลงวันที่ ๗
มีนาคม ๒๕๕๔ ชี้แจงว่า
๑) ในการจัดเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อจัดการเรียนการสอน ได้มีหนังสือหารือสำานักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อมิให้ขัดกับมาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่า กระทรวงศึกษาธิการควรกำาหนด
เกณฑ์มาตรฐานทั่วไปของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานว่า กรณีใดบ้างที่เป็นการจัดการ
ศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่รัฐจัดให้โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และกรณีใดบ้างที่อยู่
นอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานอันอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายได้ โดยสถานศึกษาต้องได้รับ
ความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และประกาศให้นักเรียนและผู้ปกครองทราบ
ล่วงหน้าว่า รายการที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาของนักเรียนที่เพิ่มเติมจากเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปของ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นรายการที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครอง
แสดงความสมัครใจว่าประสงค์จะเข้าร่วมในการศึกษานอกหลักสูตรโดยเสียค่าใช้จ่ายนั้นด้วย
๒) จากความเห็นของสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงได้จัดทำาประกาศกระทรวง
ศึกษาธิการ เรื่อง เงินบำารุงการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๒๗
มิถุนายน ๒๕๕๑ โดยอาศัยอำานาจตามมาตรา ๕ และมาตรา ๕๘ (๒) แห่งพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยกำาหนดให้สถานศึกษาเก็บเงินบำารุง
การศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนนอกหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ซึ่งมุ่งเน้นหลักสูตรที่มีเนื้อหาสาระมากกว่าปกติ การสอนด้วยบุคลากรพิเศษ การสอนด้วยรูปแบบ
11
สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำาเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำารุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ