Page 60 - สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง กรณีการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
P. 60

ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารมีความก้าวหน้ามากขึ้น เนื่องจากมีพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของ
                    ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งต้องมีการเปิดเผยข้อมูล  แต่จะเป็นการไม่ให้ข้อมูลทั้งหมดเนื่องจากอาจทำาให้

                    เกิดผลกระทบต่อผู้ต้องหาหรือจำาเลย และญาติของผู้ต้องหาหรือญาติของจำาเลย ซึ่งการที่ผู้ต้องหาหรือ
                    บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำาความผิดไปทำาแผนประกอบคำารับสารภาพ และมีการถ่ายภาพเพื่อนำาเสนอ

                    เป็นข่าวผ่านทางสื่อต่างๆ ก็ทำาให้เกิดผลร้ายต่อบุคคลนั้น  ซึ่งสังคมจะเกิดความไม่ไว้วางใจในตัว
                    บุคคลนั้น รวมทั้งคนในครอบครัวของบุคคลนั้นด้วย  การที่หน่วยงานของรัฐมีการออกสื่อเพื่อโน้มน้าว

                    ให้คนในสังคมยอมรับและประณามว่าบุคคลนั้นกระทำาความผิดโดยที่ศาลยังไม่ได้มีคำาพิพากษา ทำาให้
                    เกิดผลกระทบต่อคนรอบข้างและประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำาที่ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่ง

                    ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐  มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐  ปฏิญญาสากลว่าด้วย
                    สิทธิมนุษยชน ข้อ ๑๑  และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ ๑๐

                    และข้อ ๑๔  โดยบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำาผิดทางอาญามีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่า
                    บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีผิดตามกฎหมาย  และบุคคลที่ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพต้องได้รับการ

                    ปฏิบัติด้วยความมีมนุษยธรรมและความเคารพในศักดิ์ศรีแต่กำาเนิดแห่งความเป็นมนุษย์  ซึ่งการนำาตัว
                    ผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพควรกระทำาเฉพาะเท่าที่จำาเป็น และเป็นไป

                    ด้วยความระมัดระวัง  รวมทั้งควรมีมาตรการในการป้องกันเพื่อมิให้ผู้ต้องหาถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
                    ส่วนการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน  เจ้าหน้าที่ควรเป็นผู้ที่แถลงความคืบหน้าโดยไม่ต้องนำาตัวผู้ต้องหา

                    หรือญาติของผู้ต้องหามาร่วมแถลงข่าวด้วย

                              ดังนั้น การที่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำารวจนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้

                    ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จะต้องเป็นไปเพื่อเป็นการรวบรวม
                    พยานหลักฐานให้มีน้ำาหนักเพียงพอประกอบการพิจารณาของศาล  และให้ศาลเชื่อได้ว่าจำาเลยเป็น

                    ผู้กระทำาความผิดและพิพากษาลงโทษ  มิใช่การนำาตัวผู้ต้องหาไปประจาน รวมทั้งต้องมีการคำานึงถึง
                    ความปลอดภัยของผู้ต้องหา การปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ต้องหา และการป้องกันมิให้เกิดการ

                    กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย รวมทั้งชื่อเสียงด้วย ซึ่งการใช้เสรีภาพของสื่อมวลชน
                    ในการนำาเสนอข่าวจะต้องไม่ไปกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่

                    ส่วนตัว  โดยสื่อมวลชนสามารถรายงานเหตุการณ์เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
                    และเพื่อให้สอดคล้องกับประมวลระเบียบการตำารวจเกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ ๓๐ ข้อ ๑ ห้ามมิให้ผู้มี

                    หน้าที่ในการให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าวให้ข่าว กรณีที่คดีที่อยู่ในระหว่างการสืบสวนหรือสอบสวน
                    ยังไม่เสร็จ  และเหตุการณ์หรือเรื่องราวซึ่งถ้าหากเปิดเผยต่อประชาชนอาจเป็นแบบที่บุคคลอื่นจะ

                    ถือเอาเป็นตัวอย่างในการกระทำาขึ้นอีก เช่น แผนประทุษกรรมต่างๆ ของคนร้าย หรือวิธีการที่แสดงถึง
                    การฉ้อโกง การกระทำาอัตวินิบาตกรรม และวิธีการอันชั่วร้ายอื่นๆ  รวมทั้งการห้ามมิให้ทำาป้ายชื่อ

                    แขวนคอผู้ต้องหา แล้วนำาออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหรือแพร่ภาพ ซึ่งคำาสั่งสำานักงานตำารวจ
                    แห่งชาติ ที่ ๘๕๕/๒๕๔๘ ได้กำาหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์

                    การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชนไว้อย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ตำารวจควรระมัดระวังถ้อยคำา หรือกิริยา



                                                                                                          59

                                                                       สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง
                                                      กรณีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65