Page 59 - สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง กรณีการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
P. 59
การปกปิดใบหน้า ชื่อ–นามสกุล ที่อยู่ และข้อมูลที่แสดงให้ทราบได้ว่าผู้ต้องหาเป็นใคร ทำาให้เกิด
ผลกระทบต่อตัวผู้ต้องหา บุคคลในครอบครัว ญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิด ซึ่งสังคมจะเข้าใจและตีตราว่า
ผู้ต้องหาที่นำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพเป็นผู้กระทำาผิด ทั้งที่ศาลยังมิได้มีการพิจารณา
พิพากษา หากความปรากฏในภายหลังว่า ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยผู้ต้องหารายนั้นมิใช่ผู้กระทำาผิด
ตามที่ถูกกล่าวหา ชื่อเสียงเกียรติยศที่เขาสูญเสียไปตามที่ได้มีการนำาเสนอข่าวไปแล้วนั้น ก็ไม่มีผู้ใด
มาเยียวยาหรือชดเชยค่าเสียหายให้ ซึ่งในต่างประเทศการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุ
ประกอบคำารับสารภาพจะมีการปกปิดข้อมูลของผู้เสียหายหรือผู้ต้องหา และในการนำาตัวผู้ต้องหาไป
นำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ เจ้าหน้าที่จะต้องคำานึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และจะมิให้
เกิดการกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย รวมไปถึงชื่อเสียงของบุคคลนั้นด้วย ซึ่งหาก
หลีกเลี่ยงได้จะกระทำาโดยการให้บุคคลอื่นแสดงแทน หรือการให้ผู้ต้องหาคลุมหมวกโม่งเพื่อปิดบัง
ใบหน้า หรือการใช้รูปภาพ หรือการสร้างและตกแต่งรูปภาพต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ชี้
เส้นทางในการกระทำาความผิดของผู้ต้องหา แต่กรณีที่มีความจำาเป็นจะต้องนำาตัวผู้ต้องหาไปนำาชี้
ที่เกิดเหตุก็ต้องมีการป้องกันโดยกั้นเชือกในพื้นที่ที่ผู้ต้องหานำาชี้ที่เกิดเหตุ จำานวน ๒ ชั้น รวมทั้งการ
จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม รัดกุม และจะต้องไม่กระทำาในลักษณะประจาน ซึ่งในประเทศไทย
หากผู้กระทำาผิดเป็นเด็ก กฎหมายกำาหนดให้ต้องปิดบังใบหน้า เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงมิให้เกิดการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชน
ประเด็นที่ ๒ การนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๕ บัญญัติว่า “สิทธิของบุคคลในครอบครัว
เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง การกล่าวหรือไขข่าว
แพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบสิทธิ
ของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวจะกระทำามิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็น
ประโยชน์ต่อสาธารณะ” ซึ่งหากพิจารณาในด้านบวกเพื่อเป็นการป้องปรามบุคคลมิให้กระทำาความผิด
และเป็นการกระตุ้นเตือนภัยให้สังคมเกิดความระมัดระวัง แต่ในด้านลบเป็นการกระทบสิทธิของ
ผู้ต้องหา และเป็นการพัฒนาผู้กระทำาความผิด ซึ่งจะศึกษาวิธีการกระทำาความผิดผ่านสื่อมวลชน
โดยในต่างประเทศเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นผู้แถลงเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีว่ามีพยานหลักฐานที่
ครบถ้วนหรือไม่ หรือคดีอยู่ระหว่างการดำาเนินการของหน่วยงานใด ซึ่งเป็นการกล่าวถึงกรอบการ
ทำางานของหน่วยงานต่างๆ โดยจะไม่มีการให้รายละเอียดของพยาน เพราะจะทำาให้พยานเกิดความ
ไม่ปลอดภัย และในบางครั้งอาจก่อให้เกิดความเสียหายในเรื่องของคดีเนื่องจากมีการนำาข้อมูลที่ได้
จากการแถลงข่าวไปซักค้านพยานในชั้นศาล หากมีความต้องการที่จะแถลงข่าวต้องไม่ให้เกิดผลกระทบ
ต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง และไม่ควรนำาตัวผู้ต้องหาหรือญาติของผู้ต้องหามาแถลงข่าว เพราะจะทำาให้ครอบครัว
และบุคคลรอบข้างของผู้ต้องหาได้รับผลกระทบ และเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและบุคคลรอบข้าง
ของผู้ต้องหา โดยสื่อมวลชนของต่างประเทศจะรายงานความคืบหน้าของคดี ตามที่ได้รับข้อมูลจาก
เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม และจะไม่ลงรายละเอียดของข่าว
58
สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง
กรณีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน