Page 20 - รายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ
P. 20

16


               จ านวนน้อยเมื่อเทียบกับความต้องการเพราะกรมส่งเสริมฯ ได้รับจัดสรร


               งบประมาณไม่มาก นอกจากนี้ การที่ผู้ช่วยคนพิการไม่สามารถเบิกค่าเดินทางใน


               การไปให้บริการได้ จึงไม่จูงใจให้ผู้ช่วยคนพิการไปให้บริการแก่คนพิการที่อยู่ไกล

               ออกไป กรมส่งเสริมฯ ได้แก้ไขปัญหาโดยขอให้สภาคนพิการมาช่วยจัดการอบรม


               และขอความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการตั้งงบประมาณเพื่อ

               สนับสนุนการอบรมผู้ช่วยคนพิการ รวมทั้งได้น าเงินจากกองทุนส่งเสริมและ


               พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายของผู้ช่วยคนพิการในการเดินทาง


               ไปให้บริการแก่คนพิการที่อยู่ไกลโดยให้เบิกจ่ายได้ตามจ่ายจริงแต่ไม่เกินเดือนละ

               1,000 บาท



               29. พ่อแม่คนพิการที่เข้ารับการอบรมเป็นผู้ช่วยคนพิการไม่สามารถเบิก


               ค่าตอบแทนในการดูแลลูกพิการของตนเองได้เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอง


               ว่าพ่อแม่มีหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูกอยู่แล้ว จึงไม่ควรได้รับค่าตอบแทน อย่างไรก็ดี

               มีพ่อแม่คนพิการจ านวนไม่น้อยที่ต้องลาออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงดูลูกพิการเต็ม


               เวลา และพ่อแม่กลุ่มนี้ต้องการการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากรัฐทั้งในการ

               ด ารงชีพของตนเองและในการเลี้ยงดูลูกพิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่


               เหลือพ่อหรือแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว



               30. รัฐมีมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดูคนพิการ ได้แก่


               การให้เงินสงเคราะห์ครอบครัวเพื่อการด ารงชีพครั้งละ 3,000 บาทปีละไม่เกิน 3

               ครั้ง และการให้ผู้ดูแลคนพิการน าค่าเลี้ยงดูมาหักลดหย่อนภาษีในการค านวณ


               ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้คนละ 60,000 บาท นอกจากนี้ รัฐยังมีการจ่ายเบี้ย


               ความพิการให้แก่คนพิการทุกคนที่จดทะเบียนกับรัฐเป็นรายเดือนทุกเดือน ซึ่งเมื่อ

               เดือนพฤศจิกายน 2557 รัฐบาลชุดปัจจุบันได้อนุมัติให้ปรับเพิ่มเบี้ยความพิการ
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25