Page 17 - รายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ
P. 17
13
ค่าตอบแทนที่ล่ามได้จึงไม่คุ้มค่ากับเวลาที่ต้องรอและท าให้ล่ามไม่อยากไปศาล
เป็นผลให้คนหูหนวกเสียประโยชน์เมื่อไม่มีล่ามภาษามือ
22. ข้อเสนอแนะ รัฐไม่ควรใช้กระบวนการยุติธรรมปกติส าหรับคนพิการ การ
ดูแลช่วยเหลือคนพิการที่เป็นผู้เสียหายหรือเป็นพยานควรจะมีระบบช่วยเหลือ
เป็นพิเศษโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่ออ านวยความสะดวกให้คนพิการสามารถเข้าถึง
ความยุติธรรมได้ เช่น การจัดหาผู้เชี่ยวชาญหรือนักจิตวิทยามาช่วย คนพิการทาง
จิตในการให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ และการจัดหาตัวแทนทางกฎหมายหรือผู้กระท า
การแทนคนพิการ ส่วนการจ้างทนายความ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต
คนพิการจะให้เงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทซึ่งมักไม่เพียงพอ และการให้ความ
ช่วยเหลือไม่ได้ให้ในทุกกรณี เช่น คดีครอบครัวและคดีมรดกไม่สามารถขอรับ
ความช่วยเหลือได้ ส าหรับกรณีที่เงินช่วยเหลือไม่เพียงพอ ควรให้คนพิการ
สามารถใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในการว่าจ้าง
ทนายความได้ ส่วนค น พิการทางจิตที่กระท าผิดเพราะไม่สามารถควบคุม
พฤติกรรมตนเองได้ ควรมีการใช้มาตรการอื่นแทนการลงโทษ เช่น การบ าบัด
ฟื้นฟูพฤติกรรม เป็นต้น
การไม่ถูกท าร้าย แสวงประโยชน์ หรือล่วงละเมิด (ข้อ 16 ของอนุสัญญาฯ)
23. คนพิการที่อยู่ในครอบครัวยากจนมักต้องอยู่บ้านตามล าพังในระหว่างที่
สมาชิกในครอบครัวต้องออกไปท างาน คนที่มีความพิการในระดับรุนแรงที่ไม่
สามารถช่วยตัวเองได้อาจอยู่ในลักษณะถูกทอดทิ้ง คนพิการที่เป็นหญิงอาจมี
ความเสี่ยงที่จะถูกข่มขืน ซึ่งมีปรากฏเป็นข่าวอยู่เป็นระยะๆ แต่หน่วยงานรัฐยังไม่
มีมาตรการเชิงรุกเพื่อคุ้มครองคนพิการที่ถูกทอดทิ้งจากการถูกท าร้าย แสวง
ประโยชน์หรือล่วงละเมิดแต่อย่างใด แต่มีมาตรการให้ความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ
เช่น โทรศัพท์สายด่วนของศูนย์ประชาบดีหมายเลข 1300 ของกระทรวงการ