Page 208 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 208

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗ 207











                       พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗  พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์

                       ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘  และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
                       การใช้กฎหมายข้างต้นอาจทำาให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน  ดังนั้น การที่รัฐจะนำากฎหมายหรือ

                       มาตรการใดมาใช้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือความเป็นระเบียบของสังคม จึงควรคำานึงถึงผล
                       กระทบด้านสิทธิมนุษยชนควบคู่กับการรักษาความมั่นคง

                                 กสม. ได้มีข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี
                       รัฐสภา สำานักงานอัยการสูงสุด ศาลยุติธรรม กระทรวงกลาโหม กองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายใน

                       ราชอาณาจักร สำานักงานตำารวจแห่งชาติ และสำานักนายกรัฐมนตรี สรุปได้ ดังนี้


                                 ข้อเสนอแนะนโยบาย
                                 ๑)  คณะรัฐมนตรี ควรพิจารณาประกาศยกเลิกการบังคับใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก

                       พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ ในทุกพื้นที่และพิจารณาประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ ใหม่
                       เฉพาะในบางพื้นที่ที่มีความจำาเป็นเท่านั้น  เพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงและประกาศยกเลิกทันที

                       ที่สิ้นสุดความจำาเป็น
                                 ๒)  คณะรัฐมนตรี ควรพิจารณาลดระดับการใช้กฎหมายความมั่นคง เนื่องจากกฎหมาย

                       ดังกล่าวเป็นกฎหมายที่จำากัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน การบังคับใช้กฎหมายจึงต้องมีเหตุผลและ
                       ใช้อย่างจำากัดเท่าที่จำาเป็น โดยต้องกระทำาตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกฎหมาย แต่ที่ผ่านมามีการ
                                          ้
                       ใช้กฎหมายความมั่นคงซำาซ้อนกันในบางพื้นที่ ทำาให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเกิดความสับสน รวมทั้ง
                                                                                        ้
                       เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการอาจกระทำาละเมิดสิทธิได้ในเขตพื้นที่ซึ่งกฎหมายใช้อย่างซำาซ้อนได้ด้วย ดังนั้น
                       เมื่อมีการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใดแล้วหากสถานการณ์ดีขึ้นสมควรยกเลิกการใช้กฎหมาย
                       ความมั่นคงฉบับดังกล่าว  โดยอาจเปลี่ยนไปใช้กฎหมายความมั่นคงที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของ
                                                                    ้
                       ประชาชนน้อยกว่า เพื่อไม่ให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายซำาซ้อน และเพื่อให้กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ
                       ของประชาชนน้อยที่สุด

                                 ๓)  คณะรัฐมนตรี ควรพิจารณาอย่างระมัดระวังในกรณีที่จะนำากฎหมายความมั่นคงไปใช้
                       กับการชุมนุม ซึ่งโดยหลักการกฎหมายความมั่นคงไม่สามารถนำามาใช้กับการชุมนุมที่สงบและปราศจาก

                       อาวุธได้ เมื่อมีการชุมนุมขึ้นต้องนำากฎหมายที่ใช้ในภาวะปกติมาใช้บังคับก่อน เว้นแต่การชุมนุมโดยสงบ
                       แปรเปลี่ยนไปสู่สถานการณ์วิกฤติ หรือการจลาจลที่จะกระทบต่อความมั่นคง หรือก่อให้เกิดความไม่สงบ

                       เรียบร้อยอย่างร้ายแรง จึงอาจนำากฎหมายความมั่นคงมาบังคับใช้ โดยต้องประกาศใช้กฎหมายที่มีผล
                       กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนน้อยที่สุดก่อน และไม่สมควรนำาพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก

                       พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ มาใช้กับการชุมนุมไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น
                                 ๔)  คณะรัฐมนตรี โดยกองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมทั้ง

                       สำานักงานอัยการสูงสุด ศาลยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาการเข้าสู่กระบวนการอบรม
                       ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ให้ต้องมีคณะบุคคล
   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212   213