Page 56 - คู่มือการทำความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
P. 56
54 คู่มือ การทำาความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
๒. เหยื่ออาชญากรรม รวมทั้งภาพที่มีลักษณะอุจาดหรือทารุณโหดร้าย หรือล่วงละเมิด
สิทธิส่วนบุคคล หรือส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง เกียรติยศ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เว้นแต่พนักงาน
สอบสวนดำาเนินการเพื่อประโยชน์แห่งคดี หรือได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหา เหยื่ออาชญากรรมหรือ
ผู้เสียหาย
ทั้งนี้เห็นได้ว่า ตำารวจภูธรจังหวัด น. ได้จัดแถลงข่าวอันเป็นการขัดแย้งกับคำาสั่งสำานักงาน
ตำารวจแห่งชาติ ที่ ๔๖๕/๒๕๕๐ ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๐ ซึ่งปรากฏเป็นภาพของผู้ร้องเรียนใน
ฐานะผู้ต้องหาในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
ผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำาร้อง เอกสารหลักฐาน และคำาชี้แจงของ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีประเด็นให้พิจารณาสองประเด็น กล่าวคือ ประเด็นแรก การตรวจยึดสิ่งของ
นอกเหนือจากคำาสั่งศาลสามารถกระทำาได้หรือไม่ นั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ได้ให้อำานาจพนักงานสอบสวนสามารถตรวจยึดสิ่งของที่สงสัยว่าได้ใช้ในการกระทำาความผิด หรือซึ่ง
อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ การตรวจค้นยึดสิ่งของนอกเหนือจากหมายค้นที่ศาลระบุไว้ พนักงาน
สอบสวนสามารถกระทำาได้ตามนัยกฎหมายดังกล่าว
ประเด็นต่อมา การแถลงข่าวการตรวจยึดอาวุธโดยให้ผู้ร้องเรียนร่วมแถลงข่าวในฐานะ
ผู้ต้องหา เป็นการละเมิดสิทธิของผู้ร้องเรียนหรือไม่ นั้น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ ได้วางหลักกฎหมายไว้ว่าสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ย่อมได้รับ
ความคุ้มครอง การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน
อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่
ส่วนตัว จะกระทำามิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
ดังนั้น การที่ผู้บัญชาการตำารวจภูธรภาค กับผู้บังคับการตำารวจภูธรจังหวัด น. มิได้จัดการ
ป้องกันมิให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพของผู้ร้องเรียนในระหว่างการตรวจสอบอาวุธปืนตามภาพข่าว
ที่ปรากฏ เป็นการกระทำาที่ทำาให้ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในสภาพเหมือนถูกสังคมตัดสินล่วงหน้าแล้วว่า
เป็นผู้กระทำาผิด อันเป็นการไขข่าวแพร่หลาย และน่าจะกระทบต่อเกียรติยศ ชื่อเสียงของผู้ร้องเรียน
ในฐานะที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กรณีจึงเป็นการเข้าข่ายการปฏิบัติที่ขัดต่อสิทธิขั้น
พื้นฐานของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วจึงให้สำานักงานตำารวจแห่งชาติได้พิจารณาตรวจสอบ
ความบกพร่องและดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ตำารวจ ที่ก่อให้เกิดการกระทำา
ที่อาจเข้าข่ายอันเป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน อีกทั้งน่าจะเป็นการฝ่าฝืนต่อคำาสั่งของ
สำานักงานตำารวจแห่งชาติ
ที่มา: http://www.ombudsman.go.th/10/report3_2.html