Page 61 - คู่มือการทำความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
P. 61

คู่มือ การทำาความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง 59







                     การปฏิบัติตามมาตรา ๖๗ วรรค ๒ หรือคณะกรรมการร่วม ๔ ฝ่าย ซึ่งได้มีข้อเสนอต่อรัฐบาลเกี่ยวกับ

                     การกำาหนดประเภทโครงการ หรือกิจการที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้าน
                     คุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จำานวน ๑๘ รายการ เมื่อรัฐบาลได้รับข้อเสนอ

                     ของคณะกรรมการร่วม ๔ ฝ่าย แทนที่จะปฏิบัติตามรัฐบาล แต่กลับแต่งตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
                     แห่งชาติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕ และได้ออกประกาศกระทรวง

                     ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำาหนดประเภท ขนาด และวิธีปฏิบัติ สำาหรับโครงการหรือ
                     กิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ

                     และสุขภาพ ที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนจะต้องจัดทำารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ
                     สิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามกฎหมายนี้ โดยประกาศดังกล่าวได้กำาหนดประเภทโครงการหรือกิจการ

                     ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงเพียง ๑๑ ประเภท (จากเดิม ๑๘ ประเภท) จึงมีโครงการ
                     หรือกิจการอีกจำานวนมากที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง แต่ไม่เข้าข่ายต้องจัดทำารายงาน

                     การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
                                โดยที่ปัญหาผลกระทบจากการพัฒนาอุตสาหกรรมกรณีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

                     เป็นปัญหาที่ชุมชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศประสบและได้รับความเดือดร้อนในลักษณะเดียวกัน

                     กสม. จึงได้ศึกษาและจัดทำารายงานข้อเสนอแนะของ กสม. ต่อกรณีร้องเรียนของเครือข่ายประชาชน
                     ภาคตะวันออก ซึ่งมีข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

                                ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายข้างต้น แบ่งเป็น ๓ ประเด็น คือ

                                ๑. การปฏิบัติตามพันธกรณีในการเคารพสิทธิของประชาชน : รัฐควรทบทวน ปรับปรุง
                                   ประกาศกระทรวงฯ ฉบับนี้ ให้ครอบคลุมประเภทโครงการที่อาจมีผลกระทบรุนแรง

                                   ต่อชุมชน และควรทบทวนประเภทโครงการทุก ๒ ปี

                                ๒. การปฏิบัติหน้าที่ตามพันธกรณีในการปกป้องสิทธิฯ : รัฐควรปรับปรุงระบบ กลไก
                                   กระบวนการทำา และวิธีการตรวจสอบ EIA/HIA ที่โปรงใส และน่าเชื่อถือ คำานึงถึง

                                   ความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และ

                                ๓. การปฏิบัติตามพันธกิจการดำาเนินมาตรการที่ทำาให้สิทธิของประชาชนเกิดผล : รัฐ
                                   ควรส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับและทุกมิติ ตาม
                                   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐  มาตรา ๘๗  เร่งนำาเครื่องมือ

                                   การประเมินผลกระทบทางกฎหมาย (Regulatory Impact Assessment-RIA) มาใช้

                                   และทบทวนการใช้ตัวชี้วัดอื่นๆ ในการวัดผลสำาเร็จของการพัฒนาประเทศ โดยไม่อิง
                                   แต่เฉพาะตัวชี้วัดผลิตภัณฑ์มวลรวในประเทศ (GDP) ซึ่งเน้นการวัดด้านเศรษฐกิจ
                                   เท่านั้น
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66