Page 55 - คู่มือการทำความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
P. 55
คู่มือ การทำาความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง 53
ไปทั้งหมด ๘ รายการ ซึ่งอาวุธปืนทั้งหมดเป็นอาวุธมีทะเบียนและได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง
โดยชอบด้วยกฎหมาย การตรวจค้นและยึดอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตรวจดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติที่
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำารวจยังได้จัดให้มีการแถลงข่าวการตรวจยึดอาวุธ
โดยให้ผู้ร้องเรียนนั่งร่วมแถลงข่าวในฐานะผู้ต้องหา และสื่อมวลชนได้แพร่ภาพดังกล่าวไปทั่วประเทศ
ซึ่งผู้ร้องเรียนเห็นว่า การกระทำาดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ร้องเรียน ทำาให้ได้รับความเสียหาย
ต่อชื่อเสียงและหน้าที่การงานอย่างร้ายแรง
ผลการพิจารณา สำานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำารวจภูธรภาค
เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามคำาร้องเรียนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตรวจภูธรภาคได้มีหนังสือชี้แจง
ข้อเท็จจริง สรุปได้ว่า ผู้บังคับการตำารวจภูธรจังหวัด น. เป็นผู้จัดการตามหมายค้นด้วยตนเอง ซึ่งการ
ดำาเนินการตรวจค้นเป็นไปตามกฎหมาย และเรื่องร้องเรียนนี้ผู้ร้องเรียนได้มีหนังสือร้องเรียนไปยัง
กรรมาธิการตำารวจ สภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ด้วย
โดยผู้บังคับการตำารวจภูธรจังหวัด น. ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการแล้ว สำาหรับประเด็นเรื่องการ
จัดให้มีการแถลงข่าว ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้ขอให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมนั้น ตำารวจภูธรภาค
ชี้แจงว่า การจัดให้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น ตำารวจภูธรภาคได้ปฏิบัติตามคำาสั่งสำานักงาน
ตำารวจแห่งชาติ ที่ ๘๕๕/๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ วัตถุประสงค์ในการแถลงข่าวก็เพื่อ
ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำารวจ เพื่อเป็นการป้องปรามผู้กระทำา
ความผิด ผลการแถลงข่าวจะทำาให้ประชาชนมองภาพพจน์ของตำารวจในทางที่ดีขึ้น และมีความเชื่อมั่น
ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำารวจ สำาหรับกรณีที่มีภาพของผู้ร้องเรียนปรากฏสู่สาธารณะนั้น
เป็นการบันทึกภาพของสื่อมวลชนเอง มิใช่เกิดจากการจัดแถลงข่าวของข้าราชการตำารวจ ซึ่งในขณะที่
ผู้บัญชาการตำารวจภูธรภาคกำาลังพูดคุยและตรวจสอบอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนอยู่นั้น ได้มีผู้สื่อข่าว
ทำาการบันทึกภาพและนำาไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ
ผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการยึดสิ่งของตาม
หมายค้นของศาล และคำาสั่งสำานักงานตำารวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการจัดแถลงข่าวแล้ว พบว่า
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๓๒ (๒) วางหลักให้พนักงานสอบสวนมีอำานาจ
ในการค้นเพื่อพบสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยกระทำาผิด หรือได้ใช้หรือสงสัยว่าได้ใช้ใน
การกระทำาผิด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย
นี้ว่าด้วยค้น สำาหรับประเด็นการจัดแถลงข่าวนั้น สำานักงานตำารวจแห่งชาติได้มีคำาสั่ง ที่ ๔๖๕/๒๕๕๐
ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๐ ยกเลิกความในคำาสั่งสำานักงานตำารวจแห่งชาติ ที่ ๘๕๕/๒๕๔๘ ลงวันที่
๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ โดยแก้ไขเพิ่มเติมข้อความ สรุปว่าห้ามอนุญาตหรือจัดให้สื่อมวลชนทุกแขนง
ถ่ายภาพ สัมภาษณ์ หรือให้ข่าวของบุคคล ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ต้องหาในระหว่างการควบคุมของตำารวจทั้งภายในและภายนอกที่ทำาการ หรือ
สถานีตำารวจ