Page 72 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 72
๖) เนปาล (ยังไม่ได้เป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย
การคุ้มครองบุคคลมิให้ถูกบังคับให้สูญหาย) ได้มีพระราชบัญญัติว่าด้วย
การบังคับบุคคลให้สูญหายโดยกำาหนดให้เป็นฐานความผิดหนึ่ง และ
แต่งตั้งคณะกรรมการระดับสูงที่เป็นอิสระ ทำางานร่วมกับรัฐบาลและศาล
ในการติดตาม เยียวยา และแสวงหาตัวผู้กระทำาผิดเกี่ยวกับการบังคับ
๕๗
ให้บุคคลสูญหายระหว่างการสู้รบ
๒.๓ หลักการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
๒.๓.๑ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคล
ถูกบังคับให้สูญหาย(CED)
ข้อ ๑
๑. บุคคลจะถูกกระทำาให้หายสาบสูญโดยถูกบังคับไม่ได้
๒. ไม่มีพฤติการณ์พิเศษใด ไม่ว่าจะเป็นสภาวะสงคราม หรือ
สภาพคุกคามที่จะเกิดจากสงคราม การขาดเสถียรภาพทางการเมือง
ภายในประเทศ หรือสภาวะฉุกเฉินสาธารณะอื่นใดที่ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้าง
ที่มีเหตุผลสำาหรับการกระทำาให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
ข้อ ๒ เพื่อความมุ่งประสงค์ของอนุสัญญานี้ คำาว่า “การหาย
สาบสูญโดยถูกบังคับ” หมายถึง การจับกุม กักขัง ลักพาตัว หรือการ
กระทำาในรูปแบบใดๆ ก็ตาม ที่เป็นการลิดรอนเสรีภาพโดยเจ้าหน้าที่ของ
รัฐหรือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งดำาเนินการโดยได้รับอนุญาต การสนับสนุน
หรือการยอมรับโดยปริยายของรัฐ ตามมาด้วยการปฏิเสธที่จะยอมรับว่า
๕๗ สถาบันวิจัยและให้คำาปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, ตุลาคม ๒๕๕๓,
หน้า ๓.
70 การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย