Page 66 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 66
โทษประหารชีวิต เช่นเดียวกับการสำารวจความคิดเห็นของประชาชนในประเทศสหรัฐอเมริกาต่อการ
ใช้โทษประหารชีวิต ปรากฏว่าประชาชนโดยส่วนใหญ่เห็นด้วยต่อการใช้โทษประหารชีวิต นอกจากนี้
สำานักข่าว ABC ได้มีการสำารวจความคิดเห็นของประชาชนกับการใช้โทษประหารชีวิตในปี ค.ศ.
๒๐๐๖ ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ ๖๕ เห็นด้วยต่อการใช้โทษประหารชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับ
การสำารวจความคิดเห็นของชาวอเมริกาของสำานักแกลล็อป โพลล์ ในปี ค.ศ. ๒๐๐๖ ที่แสดงให้เห็น
ว่าชาวอเมริกันประมาณครึ่งหนึ่งได้แสดงให้เห็นว่าการประหารชีวิตเป็นวิธีการลงโทษที่ไม่เพียงพอ
ต่อความผิดของอาชญากร และประชาชนร้อยละ ๖๐ เห็นว่าเป็นการลงโทษที่มีความยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม ผลการสำารวจได้แสดงให้เห็นถึงความคิดเห็นที่แตกต่างของประชาชน ระหว่างแนวทาง
ในการเลือกการลงโทษประหารชีวิตและการลงโทษจำาคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีการอภัยโทษ
โดยประชาชน ๖ ใน ๑๐ ไม่เชื่อว่าโทษประหารชีวิตจะสามารถยับยั้งอาชญากรรมได้ และ
ประชาชน ส่วนใหญ่เชื่อว่ามีผู้บริสุทธิ์ที่ถูกประหารชีวิตในช่วงระยะเวลา ๕ ปีที่ผ่านมา (Capital
Punishment, 2008)
ในทางตรงกันข้าม การไม่เห็นด้วยกับโทษประหารชีวิตได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ดังจะเห็น
ได้จากแบ็คคาเรียที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้โทษประหารชีวิตมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ ๑๘ โดยแบ็คคาเรีย
ไม่เห็นด้วยกับการลงโทษที่โหดร้ายและป่าเถื่อน ตลอดจนการลงโทษด้วยวิธีการประหารชีวิต
ซึ่งแบ็คคาเรียได้ให้เหตุผลสำาคัญสองประการ คือ แบ็คคาเรียเชื่อว่ารัฐหรือบุคคลใดก็ตามไม่มีสิทธิ
โดยชอบธรรมที่จะฆ่าผู้อื่น และประการที่สอง การประหารชีวิตไม่ได้เป็นการป้องกันอาชญากรรม
ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด การจะทำาให้บุคคลอื่นเกรงกลัวต่อการลงโทษที่ดีที่สุด คือ ระยะเวลาในการ
รับโทษ การที่บุคคลทั่วไปเห็นผู้กระทำาผิดถูกถอดถอนหรือยกเลิกสิทธิเสรีภาพตลอดชีวิตที่เหลือ
ของบุคคลดังกล่าว จะเป็นการป้องกันอาชญากรรมที่ได้ผลดีกว่าการประหารชีวิต เนื่องจากการจำาคุก
ตลอดชีวิตจะเป็นตัวอย่างให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นตลอดไป อันเป็นการข่มขู่ยับยั้งต่อผู้ที่ต้องการ
จะประกอบอาชญากรรมต่อไป (Capital Punishment, 2008)
ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้โทษประหารชีวิตต้องการให้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิต ให้เหตุผล
ว่าการประหารชีวิตอาจนำาไปสู่การลงโทษผู้บริสุทธิ์และไม่สามารถดำาเนินการแก้ไขในการลงโทษผิดได้
ซึ่งการใช้โทษจำาคุกตลอดชีวิตจะมีประสิทธิภาพต่อการลงโทษมากกว่าการประหารชีวิตและเป็นการ
ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการใช้โทษประหารชีวิต กล่าวคือ จากผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้แสดงให้เห็นว่าการประหารชีวิตก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายมากกว่าการจำาคุกตลอดชีวิต เนื่องจากค่าใช้จ่าย
ที่เกิดจากกระบวนการพิจารณาคดีที่ต้องดำาเนินการอย่างระมัดระวังตั้งแต่กระบวนการในการหา
พยานหลักฐาน กระบวนการในการพิจารณาคดี การอุทธรณ์ ฎีกาคดีที่ต้องใช้ระยะเวลานาน รวมทั้ง
ในขณะต้องโทษจำาคุกในสถานภาพของนักโทษประหารที่ต้องควบคุมตัวในห้องขังเดี่ยวและมีการ
ควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด อันก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายต่อมลรัฐที่มีการใช้โทษประหารชีวิตมากกว่ามลรัฐที่
ยกเลิกการใช้โทษประหารชีวิต นอกจากนี้ ข้อมูลจากมลรัฐแมรี่แลนด์ได้ใช้ภาษีสำาหรับโทษประหารชีวิต
ระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๗๘-๑๙๙๙ รวม ๑๘๖ ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยเป็นค่าใช้จ่ายสำาหรับการตัดสินประหาร
โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 53