Page 61 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 61

การใช้โทษประหารชีวิตได้มีจำานวนเพิ่มมากขึ้นในประเทศที่ยังคงมีการใช้โทษประหารชีวิต
                  ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. ๒๐๐๘ - ๒๐๑๓ โดยประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศ

                  ที่พัฒนาแล้วอย่างเต็มรูปแบบ  หากแต่ยังคงมีการใช้โทษประหารชีวิต  ซึ่งการใช้โทษประหารชีวิต

                  มักปฏิบัติในประเทศที่มีความยากจน  หรือประเทศที่มีการปกครองในรูปแบบเผด็จการซึ่งใช้การ
                  ประหารชีวิตสำาหรับการเมืองฝ่ายตรงข้าม  ในช่วงทศวรรษที่  ๑๙๘๐  ประเทศที่มีการปกครอง
                  ในระบอบประชาธิปไตยในกลุ่มประเทศละตินอเมริกาได้มีการยกเลิกการใช้โทษประหารชีวิต

                  ซึ่งหลังจากนั้น  มีการล้มของระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง  ซึ่งได้นำาไปสู่

                  การรวมกลุ่มเป็นสหภาพยุโรป  โดยสหภาพยุโรปได้มีการเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกมีการยกเลิก
                  การใช้โทษประหารชีวิต  ซึ่งแตกต่างจากประเทศในทวีปเอเชีย  โดยประเทศอุตสาหกรรม
                  ในเอเชียได้มีการเรียกร้องให้มีการใช้โทษประหารชีวิตมากขึ้น  โดยได้รับการสนับสนุน

                  จากสาธารณะและไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลหรือสื่อมวลชนมากนัก  ซึ่งแนวโน้มการใช้

                  โทษประหารชีวิตดังกล่าวได้รับการปฏิบัติตามในประเทศในทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง
                  ที่มีการสนับสนุนให้มีการใช้โทษประหารชีวิตมากขึ้น (Capital Punishment, 2008)
                           นอกจากนี้  ปัจจุบันบางประเทศได้มีการนำาโทษประหารชีวิตกลับมาใช้อีกครั้ง  หลังจาก

                  ที่ไม่มีการใช้โทษประหารชีวิตมาเป็นระยะเวลานาน  ดังเช่น  ประเทศสหรัฐอเมริกาบางมลรัฐ

                  ซึ่งได้มีการยกเลิกการใช้โทษประหารชีวิตในปี ค.ศ. ๑๙๗๒ ได้กลับมาใช้โทษประหารชีวิตอีกครั้ง
                  ในปี ค.ศ. ๑๙๗๗ ตลอดจนประเทศอินเดียซึ่งไม่มีการใช้โทษประหารชีวิตระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๙๕
                  –  ๒๐๐๔  ได้หันกลับมาใช้โทษประหารชีวิตอีก  หากแต่ปัจจุบันประเทศศรีลังกาได้มีการยกเลิก

                  โทษประหารชีวิตในทางปฏิบัติ  ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ได้มีการนำาโทษประหารชีวิตมาใช้อีกครั้ง

                  ในปี  ค.ศ.  ๑๙๙๓  หลังจากที่มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตในปี  ค.ศ.  ๑๙๘๗  และมีการยกเลิก
                  การใช้โทษประหารชีวิตอีกครั้งในปี ค.ศ. ๒๐๐๖ ต่อมาจนถึงปัจจุบัน (Capital Punishment, 2008)



                           ก�รประห�รชีวิตเย�วชน

                           การประหารชีวิตเยาวชน คือ ผู้ที่มีอายุต่ำากว่า ๑๘ ปี ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ละเมิดต่อ
                  อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of Child) โดยเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยปรากฏ
                  ให้เห็นมากนัก ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๙๐ มีประเทศที่มีการประหารชีวิตเยาวชน จำานวน ๙ ประเทศ

                  ได้แก่  สาธารณรัฐประชาชนจีน  คองโก  อิหร่าน  ไนจีเรีย  ปากีสถาน  ซาอุดิอาระเบีย  ซูดาน

                  สหรัฐอเมริกา  และเยเมน  โดยสาธารณรัฐประชาชนจีน  ปากีสถาน  สหรัฐอเมริกา  และเยเมน
                  ได้กำาหนดอายุขั้นต่ำาของผู้ถูกประหารชีวิตไม่ต่ำากว่า  ๑๘  ปี  โดยองค์การนิรโทษกรรมสากล
                  (Amnesty  International)  ได้บันทึกจำานวนเยาวชนที่ถูกประหารชีวิตนับตั้งแต่ปีดังกล่าว

                  เป็นจำานวน  ๖๑  คน  สำาหรับสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีการกำาหนดอายุขั้นต่ำาของผู้ถูกประหาร

                  ชีวิตไม่ต่ำากว่า  ๑๘  ปี  แต่ปรากฏว่าในทางปฏิบัติได้มีการประหารชีวิตผู้ที่มีอายุต่ำากว่า  ๑๘  ปี
                  ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา  ศาลสูงสุดได้มีการยกเลิกการใช้โทษประหารชีวิตสำาหรับผู้ที่มีอายุ






        48     คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66