Page 56 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 56

มีการจัดเตรียมพื้นที่  หรือห้องสำาหรับผู้สื่อข่าวที่เข้าไปทำาข่าวในเรือนจำา  รวมทั้งพยานที่จะเข้าไป
                     สังเกตการณ์ในการประหาร เวลา ๑๘.๐๐ น. (โทษประหารชีวิตในประเทศไทย, ๒๕๔๘)

                             เจ้าหน้าที่จะจัดอาหารมื้อสุดท้ายไปให้นักโทษประหารรับประทาน เวลา ๒๒.๐๐ น. ผู้สื่อข่าว

                     และพยานจึงได้รับอนุญาตให้เข้าเรือนจำาและได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ถึงขั้นตอนการประหาร
                     เวลา ๒๓.๓๐ น. จึงได้เริ่มดำาเนินการเพื่อเตรียมการประหารซึ่งจะเริ่มเวลาเที่ยงคืนตรง เมื่อใกล้
                     ถึงเวลาประหาร  เจ้าหน้าที่จะนำาตัวนักโทษประหารจากห้องขังไปที่ห้องประหาร  แต่แทนที่จะนำา

                     นักโทษประหารไปยืนตรึงกับหลักประหาร  ก็เปลี่ยนเป็นการให้นอนบนเตียงประหาร  ตรึงและผูก

                     ด้วยสายหนัง ทั้งขา ลำาตัว และแขนทั้ง ๒ ข้าง ซึ่งอยู่ในท่ากางออกทำาให้ไม่สามารถดิ้นได้ เจ้าหน้าที่
                     ราชทัณฑ์ที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดีจะมาติดเครื่องวัดการเต้นของหัวใจเข้ากับตัวนักโทษ
                     เพื่อตรวจสอบการตายหลังการฉีดยา  โดยให้กรรมการภายนอกได้เห็นการเต้นของหัวใจ  จากนั้น

                     จึงแทงเข็มเข้าเส้นเลือดใหญ่ หรือที่หลังมือทั้ง ๒ ข้าง ข้างหนึ่งเป็นเข็มที่ใช้จริง อีกข้างหนึ่งเป็นเข็ม

                     สำารองในกรณีที่เข็มแรกมีปัญหา หรือบางกรณีจะแทงเข็มที่แขนเข็มเดียว จากนั้นนำาท่อมาต่อเข้า
                     เข็ม โยงไปยังเครื่องฉีดยา (โทษประหารชีวิตในประเทศไทย, ๒๕๔๘)
                             เมื่อได้เวลา  เจ้าหน้าที่เรือนจำาก็จะให้สัญญาณในการดำาเนินการประหารได้  เจ้าหน้าที่ที่

                     ทำาหน้าที่เพชฌฆาต ๒ คน ซึ่งอยู่ในห้องฉีดยาจะมี ๒ ปุ่ม กดคนละปุ่ม แต่จะมีปุ่มเดียวที่ปล่อยยา

                     เข้าร่าง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทั้ง ๒ จึงไม่มีโอกาสทราบได้ว่าใครเป็นผู้กดปุ่มปล่อยยาเข้าเส้น แต่สำาหรับ
                     ประเทศที่ไม่ใช้เครื่องฉีดยาอัตโนมัติ จะใช้คนฉีดยาด้วยมือ ซึ่งจะมีคนเดียว ฉีดเข้าแขนซ้ายหรือขวา
                     การฉีดไม่ได้ไปยืนฉีดที่แขน แต่ต่อสายยางออกมาและผู้ฉีดจะอยู่หลังม่าน

                             ยาที่ใช้ฉีดจะมี Sodium Penrotha 1 ในสารละลาย 20-25 cc Pancuronium bromide

                     50 cc และ Potassium chloride 50 cc
                             ยาดังกล่าวนี้เป็นผลมาจากการวิจัยของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเท็กซัส ว่าจะให้ผล
                     อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ยาที่ใช้ฉีดไม่ใช่ยาพิษ แต่เป็นยาทั่วไป ซึ่งถ้าให้เกินขนาดก็จะมีผลทำาให้ตายได้

                     โดยจะต้องมีประมาณที่มากพอสมควร ต้องค่อย ๆ ปล่อยเข้าไปในเส้นเลือด และใช้ถึง ๓ ชนิด

                     การฉีดยา เริ่มแรกจะปล่อยยา Sodium Penrotha 1 เข้าไปให้หลับก่อน จากนั้นจึงปล่อย Pancuronium
                     Bromide และ Potassium Chloride ตามลำาดับ เพื่อให้หัวใจหยุดสูบฉีดโลหิตภายในไม่ถึงนาที
                     เมื่อนักโทษแสดงอาการแน่นิ่งไป ผู้บัญชาการเรือนจำาจะขอให้นายแพทย์ของเรือนจำาเข้าตรวจยืนยัน

                     การตายของผู้ต้องขัง และประกาศเวลาตายต่อหน้าพยาน รวมใช้เวลาในการดำาเนินการตามขั้นตอนนี้

                     ทั้งสิ้นประมาณ  ๒๐-๓๐  นาที  ผู้แทนจากกองทะเบียนประวัติอาชญากรจะพิมพ์ลายนิ้วมืออีกครั้ง
                     และเคลื่อนย้ายศพของนักโทษไปห้องเก็บศพต่อไป โดยเก็บไว้ตรวจสอบอีก ๑ วัน ตลอดเวลาจะมี
                     การถ่ายรูปและวีดีโอตามขั้นตอนต่างๆ ไว้ (โทษประหารชีวิตในประเทศไทย, ๒๕๔๘)

                             สำาหรับในประเทศไทย  การเปลี่ยนแปลงวิธีการประหารมาเป็นการฉีดยานั้น  ขั้นตอน

                     การประหารจะแตกต่างจากในสหรัฐ เพราะการประหารชีวิตของไทยจะกระทำาโดยทันทีที่ได้รับคำาสั่ง
                     โดยปกติจะเป็นเวลาเย็น นักโทษประหารจะไม่รู้ตัวล่วงหน้า เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปในแดนประหาร






                                                                       โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 43
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61