Page 10 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 10
ั
เริ่มโครงการ เช่น การให้ข้อมูล สํารวจพื้นที่ การรับฟงข้อมูลข้อเท็จจริง การกําหนดพิจารณาแนวทางการแก้ไข
ั
ปญหา ให้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบหลักเกณฑ์การจ่ายค่าทดแทนหรือเวนคืนที่ดินใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็น
ั
ธรรมและเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปจจุบัน โดยให้ผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินและผู้ที่มีสิทธิครอบครองที่ดินมี
ส่วนร่วมในการกําหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว และให้กรมที่ดินมีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบและกระบวนการออก
เอกสารสิทธิโดยให้ประชาชนหรือชุมชนมีส่วนร่วม
ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) มีลักษณะพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งได้แก่การจัดที่ดินทับซ้อน
การออกเอกสารรับรองสิทธิล่าช้า การดําเนินคดีราษฎรที่มีข้อพิพาท โดยมีสาเหตุจากการจัดที่ดินให้ผู้ไม่มี
่
่
คุณสมบัติ การจัดที่ดินปฏิรูปทับพื้นที่ปาชุมชน การกันที่ดินคืนกรมปาไม้ทําให้ราษฎรที่ทํากินไม่ได้รับที่ดิน การจัด
ั
่
่
ที่ดินล่าช้าทําให้หน่วยงานปาไม้อ้างว่ายังเป็นพื้นที่ปาและถูกจับกุมดําเนินคดี ส่งผลให้เกิดปญหาราษฎรไม่สามารถ
เข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินไม่ได้หรือไม่ได้รับเอกสารรับรองสิทธิ
่
กล่าวโดยสรุป การละเมิดสิทธิด้านที่ดินและปาในภาพรวม มีลักษณะขอบเขตการสงวนหวงห้ามที่ดินของ
รัฐไม่ชัดเจน ขาดการมีส่วนร่วมของราษฎร ใช้อํานาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามดุลพินิจที่ไม่มีมาตรฐาน โดยมี
สาเหตุมาจากการใช้อํานาจรัฐส่วนกลางไปล้มล้างทําลายระบบสิทธิอํานาจของชุมชน ตลอดจนขาดกระบวนการ
คลี่คลายข้อพิพาทที่มีประสิทธิภาพเพราะขาดการมีส่วนร่วมของราษฎร รวมทั้งความไม่ทันสมัยของนโยบายและ
ั
กฎหมาย และการขาดความรู้ความเข้าใจในบริบทท้องถิ่นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ทําให้เกิดปญหาข้อพิพาทขัดแย้ง
่
ในเรื่องที่ดินและปาจํานวนมากและมีความรุนแรง
โครงการวิจัยฯ มีข้อเสนอในการปรับปรุงนโยบายและกฎหมายดังนี้
ข้อเสนอเชิงหลักการ
- รัฐควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ราษฎรได้รับสิทธิที่จะมีที่ดินอยู่อาศัยและทํากินเพียงพอต่อการยังชีพและ
การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างทั่วถึง โดยสํารวจราษฎรที่ไม่มีที่อาศัยทํากินและเร่งรัดจัดที่ดินให้ราษฎรผู้ไม่มีที่ดินทํา
กินให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
้
- รัฐควรจัดการศึกษาให้ราษฎรและเจ้าหน้าที่รัฐมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและการปกปองคุ้มครอง
สิทธิในที่ดินของราษฎรและชุมชน และเมื่อราษฎรมีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน รัฐควรจะต้องมีหน่วยงานให้ข้อมูลและ
คําปรึกษาแนะนําทางวิชาการและระเบียบกฎหมายแก่ราษฎร
ั
- เมื่อมีปญหาพิพาทขัดแย้งเรื่องสิทธิในที่ดินและทรัพยากร รัฐจะต้องวางโครงสร้างและกลไกการแก้ไข
ั
ั
ปญหาอย่างมีส่วนร่วมแบบถาวร ราษฎรที่มีปญหาพิพาทขัดแย้งเรื่องสิทธิในที่ดินและทรัพยากร จะต้องมีส่วนร่วม
ั
ในกระบวนการจัดการแก้ไขปญหาข้อพิพาทในที่ดิน
ข้อเสนอเฉพาะหน้า
ด้านกระบวนการยุติธรรม เสนอให้ยุติการกระทําที่รุนแรงต่อราษฎรในพื้นที่พิพาททั้งโดยหน่วยงานของ
รัฐและภาคเอกชน และสร้างกลไกและกระบวนการยุติธรรมที่ให้ช่วยให้ราษฎรได้เข้าถึงทรัพยากรในการต่อสู้เพื่อ
ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมได้จริง ทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับชาติ
ด้านข้อมูลและระบบฐานข้อมูล รัฐควรปรับปรุงการเก็บข้อมูลและการเก็บรักษาข้อมูลและหลักฐาน
เกี่ยวกับที่ดินให้ดีและปลอดภัย และมีกลไกให้สาธารณตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลที่ดินของรัฐได้โดยง่าย
ข้อเสนอระยะยาว
- ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินและทรัพยากรทั้งหมด โดยทําเป็น “ประมวลกฎหมายการบริหารจัดการ
ที่ดินและทรัพยากร” ที่มีลักษณะเป็นกฎหมายส่งเสริม เพื่อลดการทับซ้อนของกฎหมายหลายฉบับในที่แปลง
ช