Page 80 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 80
58
ความจริงจังของการขับเคลื่อนยุทธศาสตรดังกลาว โดยเฉพาะในภาครัฐที่เปนกลไกสําคัญในการกําหนด
นโยบาย ยังปรากฏมี
(1) การเลือกปฏิบัติในระดับนโยบาย/กฎหมาย โดยจะเห็นไดจากในกรณีการคัดเลือกขาราชการฝาย
ตุลาการ และขาราชการตํารวจ สถานการณขางตน ชี้ใหเห็นวา แมวารัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2550 จะมีบทบัญญัติที่รับรองความเสมอภาคของบุคคล และมิใหมีการเลือกปฏิบัติตอบุคคลดวย
เหตุแหงความแตกตางในเรื่องถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ
(เนนโดยผูวิจัย) สถานะทางบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรมหรือ
142
ความคิดเห็น ทั้งยังมีแนวทางปฏิบัติแหงชาติวาดวยการปองกันและบริหารจัดการดานเอดสในสถานที่
ทํางานที่ครอบคลุมสถานการณประกอบการทุกประเภท ทั้งหนวยงานของรัฐ เอกชน แตในความเปนจริง การ
เลือกปฏิบัติในระดับกฎหมาย/นโยบายในหลายหนวยงานยังปรากฏอยางชัดเจน สภาพปญหาขางตน สวนหนึ่ง
อาจเปนเพราะบทบัญญัติดังกลาว ยังไมมีกฎหมายลูกที่มีสภาพบังคับอยางชัดเจน ทั้งไมมีบทลงโทษกรณีที่มี
การฝาฝนหรือละเมิดกฎหมายดังกลาว ทําใหยังคงมีปรากฏการณการเลือกปฏิบัติในระดับกฎหมาย/นโยบาย
เชนนี้
(2) การเลือกปฏิบัติระดับสถาบัน ซึ่งเกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาและสถานที่ทํางาน ดูเหมือนจะเปน
ปญหาหลักในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อมากที่สุด โดยปญหาที่แพรหลายที่สุดคือ การบังคับตรวจเลือด
กอนจางงาน ซึ่งพบในธุรกิจหลายประเภท ที่สําคัญไดแก ธุรกิจโรงแรม การคาปลีก ธุรกิจอาหารและบริการ
ธนาคารและแมแตธุรกิจขายรถยนต
(3) การเลือกปฏิบัติในระดับชุมชน หรืออีกนัยหนึ่งคือการเลือกปฏิบัติในกลุมแรงงานนอกระบบ เมื่อผู
ติดเชื้อถูกเลือกปฏิบัติในระดับสถาบัน การกลับไปดําเนินชีวิตในชุมชนดูเหมือนเปนทางเลือกแรกๆ แตขอมูล
จากการศึกษาขางตนชี้ใหเห็นวา หลายกรณีการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นในระดับชุมชน ทําใหชุมชนไมสามารถทํา
หนาที่เปนโครงขายคุมครองทางสังคม (Social Safety Net) ที่ดีนัก และกลายเปนสวนที่ซ้ําเติมสถานการณ
การตีตราและการเลือกปฏิบัติตอผูติดเชื้อเอชไอวีเสียเอง อยางไรก็ดี ขอมูลจากการศึกษา พบวา การแกปญหา
การเลือกปฏิบัติในระดับชุมชนดูจะเปนเรื่องงายกวาการเลือกปฏิบัติในระดับสถาบัน และนโยบาย/กฎหมาย
โดยเฉพาะเมื่อตัวผูติดเขื้อสามารถทําความเขาใจเรื่องชองทางการแพรระบาดของเชื้อ เอชไอวีกับคนในชุมชน
ของตนเอง รวมทั้งพิสูจนตัวเองไดวา เขาเหลานั้นยังสามารถดําเนินชีวิต และประกอบอาชีพไดไมตางจากผูอื่น
อยางไรก็ดี จากการเก็บขอมูลในกลุมผูติดเชื้อเอชไอวี และกลุมผูใกลชิด พบวา สถานการณการเลือก
ปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเกิดขึ้นอยางมากในธุรกิจที่เกี่ยวของกับอาหาร และธุรกิจบริการ โดย
143
นายจางมีความหวาดกลัววา ผูติดเชื้อจะแพรเชื้อใหคนอื่นๆ ผานผลิตภัณฑและการบริการ สาเหตุสําคัญของ
การเลือกปฏิบัติ ยังคงอยูที่ความหวาดกลัวการแพรระบาดของเชื้อเอชไอวี ตลอดจนการขาดความรูความเขาใจ
ถึงเทคโนโลยีการดูแลรักษาในปจจุบัน ที่ทําใหผูติดเชื้อสามารถมีชีวิตอยูและปฏิบัติงานไดเหมือนคนทั่วไป ทั้งนี้
เปนผลมาจากพลังที่เกิดจากประสิทธิผลของการรณรงคเพื่อปองกันการแพรระบาดของโรคเอดสตั้งแตทศวรรษ
แรกๆ อยางไรก็ดี แมวาในยุทธศาสตรการปองกันและแกไขปญหาเอดสชาติ พ.ศ. 2555-2559 จะเพิ่มมุมมอง
เรื่องการลดการตีตราและเลือกปฏิบัติเปนหนึ่งในเปาหมายหลักในการมุงสูเปาหมายที่เปนศูนย (Getting to
142
รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 30
143
อยางไรก็ดี เนื่องจากคณะผูวิจัยไมไดรับความรวมมือจากนายจางกลุมนี้เลย ไมวาจะเปนการใหสัมภาษณหรือการรวม
สนทนากลุม เนื่องมาจากความวิตกกังวลในเรื่องภาพลักษณองคกร หรือแมแตการขาดความไววางใจในตัวคณะผูวิจัย ในการ
ดําเนินการศึกษาวิจัยเพื่อแกไขปญหาการเลือกปฏิบัติ การสรางความไววางใจ โดยเฉพาะกับกลุมเปาหมาย กลายเปนเรื่องที่มี
ความสําคัญมาก และจําเปนตองใหเวลาสําหรับกระบวนการสรางความไววางใจกอนที่จะดําเนินงานในขั้นตอไป