Page 4 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 4

๑. สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยจากประเทศเมียนมาร์    ในพื้นที่ที่มีการอพยพของผู้หนีภัยสงครามเมื่อ

               ปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๓ พบว่า อ าเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีผู้ลี้ภัยเข้ามามากที่สุดประมาณ ๒๕,๐๐๐ คน ล าดับ
               ต่อมาคืออพยพเข้ามาทางอ าเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ ๘๐  คน มีพวกที่หลบอยู่ตามป่าตาม

               เขาประมาณ ๑,๐๐๐ คน กระจายกันอยู่เป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๑๐๐ คนบ้าง ๙๐ คนบ้าง บางคนได้ไปอาศัยอยู่กับ

               ญาติในชุมชนมอญ กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ ต าบลหนองลู  อ าเภอสังขละบุรี ประมาณ

               ๓,๐๐๐ คน  ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการสู้รบครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ท าให้มีผู้ลี้ภัยไหลทะลักเข้ามาอยู่ที่พัก

               พิงชั่วคราวบ้านแม่สุริน อ าเภอขุนยวม บ้านแม่ลามาหลวงและบ้านแม่ละอูนอ าเภอสบเมย  บ้านใหม่ในสอย
               อ าเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่ มีการสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับกองก าลังรัฐฉานเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕  นาน

               กว่าหนึ่งเดือน ท าให้มีชาวบ้านจาก ๔ หมู่บ้านตามบริเวณชายแดนพม่าอพยพเข้ามาในฝั่งไทยประมาณ ๙๐๐

               คน / ๒๕๐ ครัวเรือน  และที่จังหวัดเชียงราย การสู้รบครั้งใหญ่เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ท าให้ผู้หญิงและเด็ก ลี้

               ภัยเข้ามาทางด่านที่อ าเภอแม่สาย เข้ามาอาศัยอยู่กับญาติ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลอดภัย  ผู้ลี้ภัยทั้ง ๕ พื้นที่ได้รับ
               การดูแลจากฝ่ายปกครองของไทย และกองก าลังผาเมืองโดยมีการจัดที่พักพิงชั่วคราวให้ เมื่อฝ่ายทหารได้รับ

               ข่าวว่า การสู้รบในฝั่งพม่าสงบลงแล้ว ก็มีการส่งผู้ลี้ภัยกลับ แต่การสู้รบมิได้ยุติลงจริง ท าให้ผู้ลี้ภัยต้องกลับเข้า

               มายังฝั่งประเทศไทย ๓-๔ รอบ

                      ปัจจุบันการสู้รบได้ยุติลง ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่จึงกลับไปยังถิ่นที่อยู่ของตนแล้ว เพราะมีที่ดินท ากินและเลือก

               สวนไร่นาที่ต้องดูแล แต่ยังมีผู้ลี้ภัยบางส่วนกระจายตัวอยู่กับญาติพี่น้องในชุมชน เช่นที่จังหวัดตาก กระจายอยู่

               ใน ๓ อ าเภอ คือ อ าเภอพบพระ อ าเภออุ้มฝาง และ อ าเภอท่าสองยาง  รวมทั้งสิ้นประมาณ ๔,๐๐๐ คน ผู้ลี้ภัย

               ที่เป็นเด็กประมาณ ๓,๐๐๐  คน ต้องพักพิงอยู่ในบ้านพักซึ่งเรียกว่า  Boarding  House  ประมาณร้อยละ ๖๐-

               ๗๐ มาจากภาวะสงคราม  สภาพความเป็นอยู่ของเด็กค่อนข้างล าบาก  ส าหรับผู้ที่อยู่ในวัยแรงงาน ก็จะมีอาชีพ
               รับจ้างรายวันในภาคเกษตรได้ค่าแรงวันละ ๘๐ บาท ขณะที่ค่าแรงขั้นต ่าจังหวัดตากวันละ ๑๗๐ บาท ผู้ที่อยู่ที่ที่

               บ้านแม่สามแลบ อ าเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งลี้ภัยเข้ามานานแล้ว ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย จึง

               ถูกจ ากัดการเดินทางออกนอกพื้นที่ ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง รายได้เฉลี่ยต่อเดือนละ ๓,๐๐๐  บาท เด็กได้มี

               โอกาสเรียนหนังสือในโรงเรียนของประเทศไทยในระดับประถมศึกษา แต่ไม่สามารถเรียนต่อในระดับที่สูงกว่า
               นั้นได้  ผู้ลี้ภัยที่ยังคงอยู่ที่อ าเภอสังขละบุรี  จังหวัดกาญจนบุรีอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง และเป็นแรงงานรับจ้าง

               รายวันอยู่ในสวนยาง มีรายได้วันละ ๑๐๐ บาท และรับจ้างกรีดยาง มีรายได้จากน ้ายางที่กรีดได้กิโลกรัมละ ๒

               บาท พอหมดฤดูกรีดยางก็ไม่มีรายได้ ที่อ าเภอแม่สาย  จังหวัดเชียงรายบริเวณชายแดนที่มีการอพยพไป-มา จะ

               อยู่ตามบริเวณตะเข็บที่เป็นป่าเขาในเขตอ าเภอแม่ฟ้ าหลวง  และที่อ าเภอเวียงแหง  จังหวัดเชียงใหม่อาศัยอยู่ใน





                                                              ข
   1   2   3   4   5   6   7   8   9