Page 83 - คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
P. 83
สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
๓.๓.๗ ศาลไม่รับฟังถ้อยคำาของผู้ต้องหา กรณีดังต่อไปนี้
๓.๓.๗.๑ พนักงานสอบสวนไม่แจ้งสิทธิต่างๆ เช่น
สิทธิที่จะไม่ให้การ สิทธิที่จะมีทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟัง
การสอบปากคำา พนักงานสอบสวนมิได้เตือนผู้ต้องหาว่าถ้อยคำาที่ผู้ต้องหา
ให้การนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ ตามที่ ป.วิ.อ.
มาตรา ๑๓๔/๔ บัญญัติไว้
๓.๓.๗.๒ พนักงานสอบสวนไม่ได้ถามผู้ต้องหาว่า
มีทนายความหรือไม่ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๓๔/๑
๓.๓.๗.๓ พนักงานสอบสวนไม่ได้จัดหาทนายความ
ให้ผู้ต้องหาตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๓๔/๑ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง
๓.๓.๗.๔ พนักงานสอบสวนไม่ได้จัดให้นักจิตวิทยา ฯลฯ
ร่วมอยู่ด้วยในการสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๓๓
ทวิ ประกอบมาตรา ๑๓๔/๒
๓.๓.๗.๕ พนักงานสอบสวน ไม่ยอมให้ทนายความ
หรือผู้ซึ่งผู้ต้องหาไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำาผู้ต้องหา ตาม ป.วิ.อ.
มาตรา ๑๓๔/๓
๓.๓.๗.๖ พนักงานสอบสวน ทำาการสอบสวนเพิ่มเติม
แต่ไม่เตือนผู้ต้องหาว่า ถ้อยคำาที่ผู้ต้องหาให้การนั้นอาจใช้เป็นพยาน
หลักฐานในการพิจารณาคดีได้ (โปรดดู แนวคำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๓๐๔/
๒๔๘๒)
๓.๓.๗.๗ พนักงานสอบสวนทำาการสอบสวนโดย
ฝ่าฝืน ป.วิ.อ. มาตรา ๑๓๕ ทำาให้ผู้ต้องหาให้ถ้อยคำาออกมาโดยไม่สมัครใจ
คำารับสารภาพนั้นรับฟังไม่ได้ (หมายความว่า เมื่อผู้ต้องหานั้นต้องเป็น
จำาเลย ก็จะนำาคำารับสารภาพของผู้ต้องหาที่ให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวน
เป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดของจำาเลยไม่ได้ หากเป็นคำารับสารภาพ
59