Page 42 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 42
ครอบครัว เพื่อช่วยคู่สำมีภรรยำในกำรตัดสินใจและตระหนักถึงสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ในด้ำน
อำยุที่เหมำะส ำหรับกำรสมรส กำรมีบุตร ช่องห่ำงของกำรเกิดบุตร และกำรให้ค ำปรึกษำด้ำน
อนำมัยเจริญพันธุ์ อย่ำงไรก็ตำมวิธีกำรวำงแผนครอบครัวที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยไม่ได้รวมถึง
กำรท ำแท้ง กำรท ำแท้งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมำยในประเทศอินโดนีเซีย
เป็นที่น่ำสังเกตว่ำ บทบัญญัติที่เกี่ยวกับรัฐ จะอยู่ในหมวดของ อ ำนำจและหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ
ของรัฐ ในกำรปรับปรุงกำรเข้ำถึงและคุณภำพของข้อมูลข่ำวสำร กำรศึกษำ กำรให้ค ำปรึกษำและกำร
บริกำรด้ำนกำรคุมก ำเนิด อย่ำงไรก็ตำม กฎหมำยมีกำรย้อนแย้งกันเองในแง่ที่ว่ำ นโยบำยกำรวำงแผน
ครอบครัวจะก ำหนดและก ำกับโดยควำมพยำยำม กำรวำงแผนกำรตั้งครรภ์จะต้องผ่ำนหลักและบรรทัด
ฐำนทำงศำสนำ สถำนภำพของควำมก้ำวหน้ำทำงสังคม-เศรษฐกิจและวัฒนธรรม และค่ำนิยมของชุมชน
นอกจำกนี้ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ำ สิทธิของบุคคลส่วนหนึ่งย่อมถูกลิดรอนหำกต่ำงจำกค่ำนิยมทำงสังคม และ
หลักทำงศำสนำ ที่ไม่ได้เอื้อต่อกำรด ำรงอยู่ของเยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ซึ่งไม่สำมำรถเข้ำถึง
สิทธิที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยได้
Population Law บัญญัติว่ำ กำรให้บริกำรด้ำนกำรคุมก ำเนิดยังคงจ ำกัดเฉพำะสำมีภรรยำที่สมรส
กันแล้วเท่ำนั้น ขณะเดียวกัน New Health Law (Law no. 36/2009) ให้ควำมส ำคัญกับสิทธิอนำมัยเจริญ
พันธุ์ และอนุญำตให้สำมำรถท ำแท้งโดยปลอดภัยได้ส ำหรับกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทำงกำรแพทย์ และกรณีข่มขืน
กระท ำช ำเรำที่เป็นสำเหตุของกำรตั้งครรภ์ แต่ยังคงต้องมีกำรพัฒนำกฎระเบียบส ำหรับกำรด ำเนินงำน ยำ
คุมก ำเนิดแบบที่มีฮอร์โมนถูกระบุว่ำเป็นยำและต้องมีใบสั่งยำจำกแพทย์ ควำมก ำกวมของกฎหมำยที่
ก่อให้เกิดปัญหำกำรตีควำมกฎหมำย ท ำให้เกิดควำมไม่เสมอภำค และกำรเข้ำไม่ถึงกำรบริกำรด้ำนสุขภำพ
กำรวำงแผนครอบครัวและกำรคุมก ำเนิดของเยำวชนหญิง เช่นเดียวกับประเทศฟิลิปปินส์ ควำมคิดควำม
เชื่อทำงศำสนำมีอิทธิพลอย่ำงมำกต่อกำรเข้ำถึงสิทธิด้ำนต่ำงๆ ของเยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม
กล่ำวโดยสรุป จำกกำรศึกษำกฎหมำยของทั้ง ๓ ประเทศ มีข้อเหมือนและแตกต่ำงไปตำมบริบท
ทำงสังคมและวัฒนธรรม ฐำนคิดของสังคมที่เป็นตัวก ำกับและสะท้อนออกมำในตัวบทกฎหมำย นโยบำย
และมำตรกำร แม้ว่ำทั้ง ๓ ประเทศจะรับเอำมุมมองเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นแนวคิดที่น ำเข้ำจำกตะวันตก
แต่กำรน ำแนวคิดนี้มำใช้มีควำมแตกต่ำงกันไปตำมบริบทของแต่ละประเทศด้วยเช่นกัน กฎหมำยที่สะท้อน
ฐำนคิดทำงสังคมและวัฒนธรรม บำงส่วนย้อนแย้งกับ กติกำระหว่ำงประเทศว่ำด้วยสิทธิทำงเศรษฐกิจ
สังคม และวัฒนธรรม ภำค ๒ ข้อ ๕ ซึ่งกล่ำวว่ำ
“ห้ามการจ ากัดหรือลิดรอนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ได้รับรองหรือที่มีอยู่ในประเทศใดโดยอาศัย
อ านาจของกฎหมาย อนุสัญญา ข้อบังคับ หรือจารีตประเพณี โดยอ้างว่ากติกานี้ไม่รับรองสิทธิเช่น
ว่านั้น หรือรับสิทธินั้นในขอบเขตที่ด้อยกว่า”
นอกจำกนี้ ทั้ง ๓ ประเทศให้สัตยำบันในอนุสัญญำว่ำด้วยกำรขจัดกำรเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุก
รูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women หรือ
๔๑