Page 197 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 197
ต.ย.เช่น พอดิฉันเข้าไปดูใน You Tube จะเห็นวิดีโอการรณรงค์แปลกๆ นั่นคือน าเสนอ ๒ ธีม No sex กับ Safe
sex ซึ่งหมายความวว่ากลุ่ม นร. ที่เป็นเด็กดี เป็นลูกที่ดี ต้อง No sex ส่วนเด็กกลุ่มเสี่ยง เด็กเปรี้ยว ใส่กางเกงขา
สั้น ก็ต้อง Safe sex
แปลกที่การรณรงค์ให้ข้อมูลคนละชุดกัน ดิฉันคิดว่านี่เป็นมิติสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง มันเหมือนคนกลัวๆ กล้าๆ จะ
ให้ข้อมูลเรื่อง Safe sex ก็ให้เฉพาะกลุ่ม แต่นี่ถือเป็นการตัดสินไปก่อน และเลือกปฏิบัติ ถ้าเรายังคงส่งทอด
ความคิดแบบนี้ต่อไป ก็จะเหลือเยาวชนกลุ่มใหญ่ที่ถูกปล่อยให้เผชิญหน้ากับความทุกข์ เพราะถูกแปะป้ ายไว้แล้ว
ว่านี่กลุ่มเสี่ยง “หนูท าผิด หนูต้องได้รับการให้อภัย” ดิฉันคิดว่า ยุทธศาสตร์เรื่องนี้ต้องอยู่บนบรรทัดฐานที่เท่า
เทียมกัน ถ้าแบ่งกลุ่มแบบนี้ ก็จะเกิดการเลือกปฏิบัติและตัดสิน หมายความว่า พอมี No sex การบอกบางกลุ่มว่า
Safe sex นะ คือการตัดสินไปแล้ว เราจ าเป็นต้องรื้อ ข้อมูลเรื่องนี้ควรต้องให้อย่างเท่าเทียมกัน โดยอาศัยคนแบบ
คุณหมอที่จะอธิบายได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ส าหรับคู่กรณีที่เผชิญปัญหาท้องไม่พร้อมอยู่ ดิฉันคิดว่า ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงไม่ต้องไปย้าย ร.ร.เค้าหรอก
ค่ะ ให้เค้าเรียนหนังสือไป เค้าไม่ได้ท าอะไรผิด แต่สิ่งที่ผิดคือ การเรียนรู้ในเรื่องเพศของสังคม และการที่เรา
ออกแบบกรอบกฎกติกาที่เลือกปฏิบัติในเรื่องเพศ เราจึงต้องเผชิญทุกข์กันอยู่ เราต้องเท่าทันสิ่งที่ผิดพลาดมา
ตั้งแต่อดีต สิ่งที่ครอบเราอยู่ จะได้จัดการได้อย่างเป็นทุกข์น้อยลง
โดยสรุป มันคือปัญหาของผู้ใหญ่ที่ละเลยอะไรบางอย่าง และไม่ยอมรื้ออะไร ต้องเชื่อมโยงนะคะว่า ร.ร.ต้องรื้อ
อะไร ที่บ้านต้องรื้ออะไร ชุมชนต้องรื้ออะไร คลีนิคต้องรื้ออะไร
ดร.กนกวรรณ ถามกลับนักข่าวว่า คุณเป็นแบบไหนระหว่าง
(ก) คุณมีความสนใจในเรื่องสิทธิมนุษยชน จึงสนใจปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันว่ามันเกี่ยวกับประเด็น
สิทธิมนุษยชนอย่างไร
ถ้าเป็นแบบนี้ จะบอกว่า ค าตอบสั้นๆ ของคนในที่นี้ไม่สามารถสนองความอยากรู้ได้ จึงอยากให้ฝากให้คุณไป
ศึกษาต่อและในฐานะผู้สื่อข่าว ขอให้ใช้ความรู้นั้นไปกระจายให้คนในสังคมได้รับรู้เข้าใจมากขึ้น
(ข) ถ้าถามเพราะอยากได้ค าตอบเพื่อเอาไปใช้ในงานเฉพาะหน้า อยากบอกว่าให้วางไว้ซะ เพราะนักข่าวมักวางอยู่
บนพื้นฐานของการพยายามหา “ค าตอบที่ถูกต้อง”ให้ได้ หรือหาคนถูกหรือคนผิด ในขณะที่เรื่องๆ หนึ่งที่เกิดขึ้น
ย่อมมีคนมองไม่เหมือนกัน เป็นธรรมดา จึงไม่มีคนถูกหรือผิดหรอก ไม่งั้นตีกันตาย เราควรมองให้ลึกซึ้งมากกว่า
นั้น
ส่วนตัวคิดว่า คนที่เติบโตมาในสังคมไทยแบบหนึ่งซึ่งเชื่อว่าการท าแท้งเป็นความผิด เขาย่อมหาทางออกให้กับ
ตนเอง และพอเขาได้รับการสั่งสอนมาว่าต้องไปสแกนกรรม สเก็จกรรม จะได้หาย พี่คิดว่ามันไม่ผิดหรอกถ้ามัน
ค-๒๔
