Page 122 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 122
๔.๑.๓ ด้านการสาธารณสุข
จำกกำรศึกษำสิทธิมนุษยชนของเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ ในด้ำนกำรสำธำรณสุขพบว่ำ กำรช่วยเหลือ
ของรัฐประเด็นกำรตั้งครรภ์ในเยำวชน ไม่ใช่ควำมพยำยำมสร้ำงกำรยอมรับ/เคำรพสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์
และกำรป้ องกันกำรละเมิดสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ของเยำวชน แต่เป็นกำรป้ องกันและระวังไม่ให้มีเยำวชน
หญิงตั้งครรภ์ เพรำะมำตรกำรของรัฐยังผลิตซ ้ำทัศนคติกำรตั้งครรภ์ของเยำวชนในแง่ลบ ในฐำนะบ่อเกิด
ของปัญหำสังคม จำกกำรศึกษำวิจัยทั้งเอกสำรและภำคสนำม เห็นได้ชัดว่ำกำรให้ควำมรู้เรื่องเพศศึกษำ
และสุขภำพทำงเพศ เป็นกำรชี้น ำให้เด็กผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว หวำดกลัวกำรท ำแท้ง ปรำศจำกควำม
สนใจหรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ มำกกว่ำกำรให้ควำมรู้เกี่ยวกับกำรมีเพศสัมพันธุ์ที่ปลอดภัย เพรำะ
ยังคงมีกรอบวัฒนธรรมภำยในสังคมไทยว่ำ เพศสัมพันธ์เป็นสิ่งที่เยำวชนไม่ควรยุ่งเกี่ยว แม้ว่ำควำมรู้ใน
แวดวงวิทยำศำสตร์และกำรแพทย์จะอธิบำยว่ำเยำวชน หรือวัยรุ่นเป็นวัยเจริญพันธุ์ สำมำรถสืบพันธุ์ได้
แล้วก็ตำม ท ำให้กำรมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับกำรยอบรับ และกำรตั้งครรภ์ซึ่งเป็นผลพวง
ของกำรมีเพศสัมพันธ์ของเยำวชนจึงอยู่ในฐำนะปัญหำสังคม (กรมอนำมัย กระทรวงสำธำรณสุข, ๒๕๕๔)
เห็นได้จำกกระทรวงสำธำรณสุข ที่มีกำรเฝ้ ำระวัง และจัดท ำข้อมูลกำรเฝ้ ำระวังงำนอนำมัยเจริญพันธุ์ ที่ไม่
เพียงระวังจ ำนวนของเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ ยังเฝ้ ำระวังกำรแพร่ระบำดของโรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ กำรมี
เพศสัมพันธ์กับคนรักและคนที่รู้จักผิวเผิน ที่เน้นย ้ำและผลิตซ ้ำถึงสถำนะทำงสังคมของเยำวชนหญิง
ตั้งครรภ์กับควำมเจ็บป่วย
แม้จะมีกิจกรรมหรือโครงกำรที่พยำยำมให้ควำมรู้ ซึ่งถือเป็นกำรท ำให้เยำวชนสำมำรถบรรลุถึง
สิทธิในกำรได้รับข้อมูลข่ำวสำรและกำรศึกษำ เช่น ค่ำยแกนน ำวัยรุ่น แต่จุดประสงค์ของกิจกรรมและ
กระทรวงฯ เป็นกำรให้ข้อมูลข่ำวสำรและกำรศึกษำแต่ยังไม่รอบด้ำน เพรำะเป็นกำรให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธี
ป้ องกันกำรตั้งครรภ์ กำรติดต่อโรคทำงเพศสัมพันธ์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งปฎิเสธกำรมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลด
อัตรำกำรเพิ่มจ ำนวนของเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ (ส ำนักอนำมัยเจริญพันธุ์, ๒๕๕๓) เช่นเดียวกับกิจกรรม
“walk rally อนำมัยเจริญพันธุ์” พยำยำมชี้ให้เห็นถึงควำมสยดสยองและอันตรำยถึงชีวิตจำกกำรท ำแท้ง ซึ่ง
น ำไปสู่ควำมหวำดกลัวของเยำวชนหญิงต่อกำรท ำแท้ง เพื่อไม่ให้ตัดสินใจไปท ำแท้งเมื่อตั้งครรภ์ และ
ปฎิเสธกำรมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้ องกันกำรตั้งครรภ์ (ส ำนักอนำมัยเจริญพันธุ์,๒๕๕๓, น. ๔๖-๔๗) เห็นได้ชัด
ว่ำมำตรกำรที่ภำครัฐพุ่งเป้ ำมำยังเนื้อตัวร่ำงกำยของเยำวชนหญิงมำกกว่ำเยำวชนชำย ซึ่งสอดรับกับ
อุดมกำรณ์ “รักนวลสงวนตัว” กับเก็บรักษำเยื่อพรหมจรรย์ของผู้หญิง ตำมโครงสร้ำงปิตำธิปไตย
(Patriarchy) กำรป้ องกันกำรตั้งครรภ์ไม่พร้อมของเยำวชน จึงมุ่งให้เยำวชนหญิงรับผิดชอบและแบก
รับภำระมำกกว่ำเยำวชนชำย
เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหำจำกกำรตั้งครรภ์ของเยำวชน ภำยในทศวรรษที่ผ่ำนมำจึงมีวำทกรรมทำง
กำรแพทย์อีกชุดที่พยำยำมอธิบำยถึงปัญหำสุขภำพที่เกิดขึ้นจำกกำรตั้งครรภ์ในวัยเยำว์ทั้งกับร่ำงกำยของ
แม่และเด็ก โดยมองข้ำมภำวะเจริญพันธุ์ของเยำวชน ที่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์และสืบพันธุ์ตำมชีวภำพ
๑๒๑